Book,Page,LineNumber,Text 02,0022,001,เสียสละแก่คณะ 02,0022,002,ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุหลายรูป ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษา 02,0022,003,กว่า นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า 02,0022,004,ท่านเจ้าข้า อกาลจีวรผืนนี้ของข้าพเจ้า ล่วงเดือนหนึ่ง เป็นของจำจะสละ 02,0022,005,ข้าพเจ้าสละอกาลจีวรผืนนี้แก่ท่านทั้งหลาย. 02,0022,006,ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงรับอาบัติ พึงคืนจีวรที่ 02,0022,007,เสียสละให้ด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:- 02,0022,008,ท่านทั้งหลาย ขอจงฟังข้าพเจ้า อกาลจีวรผืนนี้ของภิกษุมีชื่อนี้เป็นของจำจะ 02,0022,009,สละ เธอสละแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ถ้าความพร้อมพรั่งของท่านทั้งหลายถึงที่แล้ว 02,0022,010,ท่านทั้งหลายพึงให้อกาลจีวรผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้. 02,0022,011,เสียสละแก่บุคคล 02,0022,012,ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประนมมือ 02,0022,013,กล่าวอย่างนี้ว่า 02,0022,014,ท่าน อกาลจีวรผืนนี้ของข้าพเจ้า ล่วงเดือนหนึ่ง เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละ 02,0022,015,อกาลจีวรผืนนี้แก่ท่าน. 02,0022,016,ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้รับเสียสละนั้น พึงรับอาบัติ พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ 02,0022,017,ด้วยคำว่า ข้าพเจ้าให้อกาลจีวรผืนนี้แก่ท่าน ดังนี้. 02,0022,018,[๓๘] เมื่อจีวรเดิมเกิดขึ้นแล้ว จีวรที่หวังจึงเกิดขึ้น เนื้อผ้าไม่เหมือนกัน และราตรี 02,0022,019,ยังเหลืออยู่ ภิกษุไม่ต้องการ ก็ไม่พึงให้ทำ. 02,0022,020,บทภาชนีย์ 02,0022,021,นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 02,0022,022,[๓๙] จีวรล่วงเดือนหนึ่งแล้ว ภิกษุสำคัญว่าล่วงแล้ว เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติ 02,0022,023,ปาจิตตีย์. 02,0022,024,จีวรล่วงเดือนหนึ่งแล้ว ภิกษุสงสัย เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 02,0022,025,จีวรล่วงเดือนหนึ่งแล้ว ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ล่วง เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 02,0022,026,จีวรยังไม่ได้อธิษฐาน ภิกษุสำคัญว่าอธิษฐานแล้ว เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.