Book,Page,LineNumber,Text 33,0033,001,ความมืดมิด ซึ่งอากูลไปด้วยข่ายคือ โมหะ ทรงแสดงแสงสว่าง 33,0033,002,คือ พระญาณ แล้วเสด็จข้ามไป พระองค์ได้ยกโลกนี้ขึ้นแล้ว สิ่งที่ 33,0033,003,ยอดเยี่ยมซึ่งมีอยู่ทั้งหมด จะเปรียบปานกับพระญาณเป็นประมาณ 33,0033,004,เครื่องไปจากโลกของพระองค์ไม่มี ด้วยพระญาณนั้น โลกจึงขนาน 33,0033,005,นามพระองค์ว่าสัพพัญญู สัพพัญญู ข้าพระองค์ขอถวายบังคม 33,0033,006,พระองค์ผู้มีความเพียรใหญ่ ทรงทราบธรรมทั้งปวง ไม่มีอาสวะ 33,0033,007,ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้สดุดีพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ด้วย 33,0033,008,การสดุดีนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการสดุดีพระญาณ 33,0033,009,เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. 33,0033,010,ทราบว่า ท่านพระญาณัตถวิกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. 33,0033,011,จบ ญาณัตถวิกเถราปทาน. 33,0033,012,อุจฉุขัณฑิกเถราปทานที่ ๕ 33,0033,013,ว่าด้วยผลแห่งการถวายท่อนอ้อย 33,0033,014,[๒๕] เราเป็นคนเฝ้าประตูอยู่ในพระนครพันธุมดี ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศ 33,0033,015,จากธุลี ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง เรามีจิตเลื่อมใสโสมนัสได้ถือเอาท่อน 33,0033,016,อ้อยมาถวาย แด่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดพระนามว่าวิปัสสี ผู้ 33,0033,017,แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราได้ถวายอ้อยใด 33,0033,018,ในกาลนั้น ด้วยการถวายอ้อยนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผล 33,0033,019,แห่งการถวายท่อนอ้อย เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธ 33,0033,020,ศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้วดังนี้. 33,0033,021,ทราบว่า ท่านพระอุจฉุขัณฑิกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. 33,0033,022,จบ อุจฉุขัณฑิกเถราปทาน.