Book,Page,LineNumber,Text 33,0008,001,ครั้นได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้นำชั้นเลิศของโลกพระนามว่าติสสะ ผู้ 33,0008,002,ประเสริฐกว่าเทวดาแล้ว เป็นผู้ร่าเริง มีจิตบันเทิง เอาดอกกากะทิง 33,0008,003,บูชาพระองค์ ได้ชมเชยพระผู้นำโลก ผู้เด่นเหมือนพระอาทิตย์ บาน 33,0008,004,เหมือนไม้พระยารัง รุ่งโรจน์เหมือนดาวประกายพฤกษ์ว่า พระองค์ 33,0008,005,ผู้สัพพัญญู ทำข้าพระองค์พร้อมทั้งเทพยดาให้สว่าง ด้วยพระญาณ 33,0008,006,ของพระองค์ บุคคลทำให้พระองค์โปรดปรานแล้ว ย่อมพ้นจากชาติ 33,0008,007,ได้ เพราะไม่ได้เฝ้าพระสัพพัญญูพุทธเจ้าผู้เห็นธรรมทั้งปวง สัตว์ 33,0008,008,ทั้งหลายที่ถูกราคะและโทสะทับถม จึงพากันตกนรกอเวจี เพราะ 33,0008,009,อาศัยการได้เข้าเฝ้าพระองค์ผู้สัพพัญญูนายกของโลก สัตว์ทั้งปวงจึง 33,0008,010,หลุดพ้นจากภพ ย่อมถูกต้องอมตบทเมื่อใด พระพุทธเจ้าผู้มีพระ 33,0008,011,ปัญญาจักษุ เปล่งรัศมี อุบัติขึ้น เมื่อนั้นพระองค์ทรงเผากิเลสแล้ว 33,0008,012,ทรงแสดงแสงสว่าง เราได้กล่าวสดุดีพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า 33,0008,013,ติสสะ ผู้เป็นนายกชั้นเลิศของโลกแล้ว เป็นผู้ร่าเริง มีจิตบันเทิง 33,0008,014,เอาดอกมะลิซ้อนบูชาพระองค์ พระพุทธเจ้า พระนามว่าติสสะ ผู้ 33,0008,015,นำชั้นเลิศของโลก ทรงทราบความดำริของเรา ประทับนั่งบนอาสนะ 33,0008,016,ของพระองค์แล้ว ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดเป็นผู้เลื่อมใส 33,0008,017,ได้เอาดอกไม้บังเราด้วยมือของตน เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่าน 33,0008,018,ทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๒๕ ครั้ง 33,0008,019,จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๗๕ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าประเทศราช 33,0008,020,อันไพบูลย์โดยคณนานับมิได้ ผลแห่งกรรมนั้น เป็นผลแห่งการ 33,0008,021,บูชาด้วยดอกไม้ ก็บุรุษที่ได้เอาดอกไม้บังเราทั้งเย็นและเช้า เป็นผู้ 33,0008,022,ประกอบด้วยบุญกรรม จักปรากฏต่อไปข้างหน้า เขาปรารถนาสิ่ง 33,0008,023,ใดๆ สิ่งนั้นๆ จักปรากฏตามความประสงค์ เขาทำความดำริชอบให้ 33,0008,024,บริบูรณ์แล้ว จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะ ปรินิพพาน เขาเผากิเลส มีสติ 33,0008,025,สัมปชัญญะ นั่งบนอาสนะเดียว บรรลุอรหัตได้ เราเมื่อเดิน ยืน