Book,Page,LineNumber,Text 30,0027,001,ติสสเมตเตยยมาณวกปัญหานิทเทส 30,0027,002,ว่าด้วยปัญหาของท่านติสสเมตเตยยะ 30,0027,003,[๑๐๐] (ท่านติสสเมตเตยยะทูลถามว่า) 30,0027,004,ใครสันโดษแล้วในโลกนี้? ความหวั่นไหวของใครย่อมไม่มี? 30,0027,005,ใครรู้ส่วนสุดทั้งสองแล้ว ย่อมไม่ติดในท่ามกลางด้วยปัญญา? 30,0027,006,พระองค์ตรัสเรียกใครว่า เป็นมหาบุรุษ? ใครล่วงแล้วซึ่งตัณหา 30,0027,007,อันเป็นเครื่องเย็บไว้ในโลกนี้? 30,0027,008,[๑๐๑] คำว่า ใครสันโดษแล้วในโลกนี้ ความว่า ใครพอใจ คือ ชอบใจ มีความ 30,0027,009,"ดำริบริบูรณ์ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ใครสันโดษแล้วในโลกนี้? บทว่า อิติ ในอุเทศว่า ""อิจฺจา" 30,0027,010,"ยสฺมา ติสฺสเมตฺเตยโย"" ดังนี้ เป็นบทสนธิ คือ เป็นบทเกี่ยวเนื่อง เป็นบทยังเนื้อความให้" 30,0027,011,บริบูรณ์ เป็นความประชุมแห่งอักขระ เป็นความสละสลวยแห่งพยัญชนะ บทว่า อิติ นี้ เป็น 30,0027,012,ไปตามลำดับบท. คำว่า อายสฺมา เป็นเครื่องกล่าวด้วยความรัก เป็นเครื่องกล่าวโดยเคารพ 30,0027,013,คำว่า อายสฺมา นี้ เป็นเครื่องกล่าวถึงเป็นไปกับด้วยความเคารพและความยำเกรง. คำว่า 30,0027,014,ติสสเมตฺเตยฺโย เป็นชื่อ เป็นเครื่องนับ เป็นเครื่องหมายรู้ เป็นบัญญัติ เป็นเครื่องเรียกร้อง 30,0027,015,เป็นนาม เป็นการตั้งชื่อ เป็นเครื่องทรงชื่อ เป็นภาษาที่เรียกร้องกัน เป็นเครื่องแสดงให้ปรากฎ 30,0027,016,"เป็นเครื่องกล่าวเฉพาะ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ""อิจฺจายสฺมา ติสฺสเมตฺเตยฺโย""." 30,0027,017,[๑๐๒] คำว่า ความหวั่นไหวของใครย่อมไม่มี ความว่า ความหวั่นไหวเพราะตัณหา 30,0027,018,ความหวั่นไหวเพราะทิฏฐิ ความหวั่นไหวเพราะมานะ ความหวั่นไหวเพราะกิเลส ความหวั่นไหว 30,0027,019,เพราะกรรม ความหวั่นไหวเหล่านี้ของใครย่อมไม่มี คือ ไม่ปรากฎ ไม่ประจักษ์ คือ ความ 30,0027,020,หวั่นไหว อันใครละได้แล้ว ตัดขาดแล้ว สงบแล้ว ระงับแล้ว มีความไม่ควรเกิดขึ้น เผา 30,0027,021,เสียแล้วด้วยไฟ คือญาณ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ความหวั่นไหวของใครย่อมไม่มี? 30,0027,022,[๑๐๓] คำว่า ใครรู้ส่วนสุดทั้งสองแล้ว ความว่า ใครรู้จัก คือ ทราบ เทียบเคียง 30,0027,023,พิจารณา เจริญ ทำให้แจ่มแจ้ง ซึ่งส่วนสุดทั้งสอง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ใครรู้จักส่วนสุด 30,0027,024,ทั้งสองแล้ว?