Book,Page,LineNumber,Text 30,0018,001,เป็นเครื่องกล่าวโดยเคารพ บทว่า มาริสนี้ เป็นเครื่องกล่าวเป็นไปกับด้วยความเคารพและความ 30,0018,002,ยำเกรง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ... นามรูป. 30,0018,003,"[๘๓] คำว่า เอตมฺเม ในอุเทสว่า ""เอตมฺเม ปุฏโ€ ปพฺรูหิ"" ความว่า ข้าพระองค์" 30,0018,004,ขอทูลถาม ทูลวิงวอน เชื้อเชิญ ให้ประสาทข้อความใด บทว่า ปุฏโ€ ความว่า ข้าพระองค์ 30,0018,005,ทูลถามแล้ว คือ ทูลวิงวอน ทูลขอเชิญ ให้ประสาท บทว่า ปพฺรูหิ ความว่า ขอจงตรัส 30,0018,006,จงบอก จงแสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้ตื้น ประกาศ เพราะฉะนั้น 30,0018,007,จึงชื่อว่า ข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอพระองค์จงตรัสบอกความข้อนั้นแก่ข้าพระองค์. 30,0018,008,[๘๔] คำว่า กตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ ความว่า นั่นย่อมดับ คือ ย่อมสงบ ย่อมถึงความ 30,0018,009,ตั้งอยู่ไม่ได้ ย่อมระงับ ณ ที่ไหน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า นั่นย่อมดับ ณ ที่ไหน. 30,0018,010,เพราะเหตุนั้น พราหมณ์นั้นจึงกล่าวว่า 30,0018,011,ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ปัญญา สติ และนามรูป ย่อม 30,0018,012,ดับไป ณ ที่ไหน? ข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอพระองค์จงตรัส 30,0018,013,บอกความข้อนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด. 30,0018,014,[๘๕] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า) 30,0018,015,ดูกรอชิตะ ท่านได้ถามปัญหาข้อใดแล้ว เราจะแก้ปัญหา 30,0018,016,ข้อนั้นแก่ท่าน. นามและรูปดับไปไม่มีส่วนเหลือ ณ ที่ใด 30,0018,017,นามรูปนั้นก็ดับ ณ ที่นั้น เพราะความดับแห่งวิญญาณ. 30,0018,018,"[๘๖] บทว่า ยเมตํ ในอุเทศว่า ""ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ"" คือ ปัญญา สติและนามรูป" 30,0018,019,บทว่า อปุจฺฉิ คือ มาถาม มาวิงวอน เชื้อเชิญ ให้ประสาทแล้ว เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ท่าน 30,0018,020,ได้ถามปัญหาใดแล้ว. 30,0018,021,"[๘๗] พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกพราหมณ์นั้นโดยชื่อว่า ""อชิตะ"" ในอุเทศว่า ""อชิต ตํ" 30,0018,022,"วทามิ เต"" บทว่า ตํ คือ ปัญญา สติ และนามรูป บทว่า วทามิ ความว่า เราจะกล่าว" 30,0018,023,จะบอก จะแสดง จะบัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้ตื้น ประกาศปัญหานั้น เพราะ 30,0018,024,ฉะนั้น จึงชื่อว่า ดูกรอชิตะ เราจะกล่าวปัญหานั้นแก่ท่าน. 30,0018,025,"[๘๘] อรูปขันธ์ ๔ ชื่อว่า นาม ในอุเทศว่า ""ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ อเสสํ อุปรุชฺฌติ""" 30,0018,026,มหาภูตรูป ๔ รูปอันอาศัยมหาภูตรูป ๔ ชื่อว่ารูป. คำว่า อเสสํ ความว่า ไม่เหลือ คือทั้งหมด