Book,Page,LineNumber,Text 24,0043,001,กสิณสูตร 24,0043,002,[๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บ่อเกิดแห่งกสิณ ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ 24,0043,003,บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งปฐวีกสิณในเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง ไม่มีสอง หาปริมาณมิได้ 24,0043,004,บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งอาโปกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งเตโชกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่งย่อม 24,0043,005,รู้ชัดซึ่งวาโยกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งนีลกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งปีตกสิณ ... 24,0043,006,บุคคลผู้หนึ่งย่อมชัดซึ่งโลหิตกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งโอทาตกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่ง 24,0043,007,ย่อมรู้ชัดซึ่งอากาสกสิณ ... บุคคลผู้หนึ่งย่อมรู้ชัดซึ่งวิญญาณกสิณ ในเบื้องบน เบื้องต่ำ 24,0043,008,เบื้องขวาง ไม่มีสอง หาปริมาณมิได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บ่อเกิดแห่งกสิณ ๑๐ ประการนี้แล ฯ 24,0043,009,จบสูตรที่ ๕ 24,0043,010,กาลีสูตร 24,0043,011,[๒๖] สมัยหนึ่ง ท่านพระมหากัจจายนะอยู่ที่ภูเขาชื่อปวัตตะ ใกล้เมืองกุรรฆระ 24,0043,012,ในอวันตีชนบท ครั้งนั้นแล อุบาสิกาชื่อกาลีชาวเมืองกุรรฆระได้เข้าไปหาท่านพระมหากัจจายนะ 24,0043,013,ถึงที่อยู่ ได้อภิวาทท่านพระมหากัจจายนะแล้วนั่ง ณที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่าน 24,0043,014,พระมหากัจจายนะว่า ท่านเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในกุมารีปัญหาว่า 24,0043,015,การบรรลุประโยชน์ เป็นความสงบแห่งหทัย เราชำนะ 24,0043,016,เสนา คือ กิเลสอันมีรูปเป็นที่รัก เป็นที่ชื่นใจแล้ว เป็น 24,0043,017,ผู้เดียวเพ่งอยู่ ได้รู้โดยลำดับซึ่งความสุข เพราะฉนั้น เรา 24,0043,018,จึงไม่ทำความเป็นเพื่อนกับด้วยชน ความเป็นเพื่อนกับด้วย 24,0043,019,ใครๆ ย่อมไม่ถึงพร้อมแก่เรา ดังนี้ ฯ 24,0043,020,ท่านเจ้าข้า เนื้อความแห่งพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้โดยย่อนี้จะพึงเห็นได้ 24,0043,021,โดยพิสดารอย่างไรหนอ ฯ