Book,Page,LineNumber,Text 23,0012,001,ชั้นดีๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป เพราะทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบา 23,0012,002,บางลง เขาเป็นพระสกทาคามีมาสู่โลกนี้อีกครั้งเดียวเท่านั้น แล้วทำที่สุดทุกข์ได้ บุคคลที่โผล่ขึ้น 23,0012,003,มาได้แล้วเตรียมตัวจะข้ามอย่างนี้แล ฯ 23,0012,004,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้วได้ที่พึ่งอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ 23,0012,005,ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะวิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ ในกุศล 23,0012,006,ธรรมทั้งหลาย เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕สิ้นไป เขาเป็นพระอนาคามี จักปรินิพพานในภพนั้น 23,0012,007,มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้วได้ที่พึ่งอย่างนี้แล ฯ 23,0012,008,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเป็นพราหมณ์ ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบกอย่างไร 23,0012,009,บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ 23,0012,010,วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ ในกุศลธรรมทั้งหลายเขากระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหา 23,0012,011,อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ บุคคลที่ 23,0012,012,โผล่ขึ้นมาได้แล้วเป็นพราหมณ์ ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบกอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบ 23,0012,013,ด้วยน้ำ ๗ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ 23,0012,014,จบสูตรที่ ๕ 23,0012,015,อนิจจาสูตร 23,0012,016,[๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๗ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของ 23,0012,017,ต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า 23,0012,018,๗ จำพวกเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง มีความ 23,0012,019,สำคัญว่าไม่เที่ยง ทั้งรู้ว่าเป็นของไม่เที่ยง ในสังขารทั้งปวง ตั้งใจมั่น ติดต่อกันไปไม่ขาดสาย 23,0012,020,มีปัญญาหยั่งทราบ ย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะ 23,0012,021,ทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ นี้เป็นบุคคลที่ ๑ เป็นผู้ควรของ 23,0012,022,คำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ