Book,Page,LineNumber,Text 23,0009,001,อนุสยวรรคที่ ๒ 23,0009,002,อนุสยสูตรที่ ๑ 23,0009,003,[๑๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุสัย ๗ ประการนี้ ๗ ประการเป็นไฉน คือ อนุสัย คือ 23,0009,004,กามราคะ ๑ อนุสัย คือ ปฏิฆะ ๑ อนุสัย คือ ทิฏฐิ ๑อนุสัย คือ วิจิกิจฉา ๑ อนุสัย คือ มานะ ๑ 23,0009,005,อนุสัย คือ ภวราคะ ๑ อนุสัยคือ อวิชชา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุสัย ๗ ประการนี้แล ฯ 23,0009,006,จบสูตรที่ ๑ 23,0009,007,อนุสยสูตรที่ ๒ 23,0009,008,[๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละ เพื่อตัดอนุสัย ๗ 23,0009,009,ประการ ๗ ประการเป็นไฉน คือ อนุสัย คือ กามราคะ ๑อนุสัย คือ ปฏิฆะ ๑ อนุสัย 23,0009,010,คือ ทิฏฐิ ๑ อนุสัย คือ วิจิกิจฉา ๑ อนุสัยคือ มานะ ๑ อนุสัย คือ ภวราคะ ๑ อนุสัย คือ 23,0009,011,อวิชชา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละ เพื่อตัดอนุสัย ๗ ประการนี้แล 23,0009,012,ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภิกษุละอนุสัยคือกามราคะเสียได้ ตัดรากขาดแล้ว ทำให้เป็น 23,0009,013,เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา ละอนุสัย คือ ปฏิฆะ ... 23,0009,014,อนุสัย คือ ทิฏฐิ ... อนุสัย คือ วิจิกิจฉา ...อนุสัย คือ มานะ ... อนุสัย คือ ภวราคะ ... อนุสัย คือ 23,0009,015,อวิชชาเสียได้ตัดรากขาดแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป 23,0009,016,เป็นธรรมดา เมื่อนั้น ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ตัดตัณหาได้แล้ว เพิกถอนสังโยชน์ได้แล้ว กระทำ 23,0009,017,ที่สุดทุกข์ได้แล้ว เพราะตรัสรู้คือละมานะเสียได้โดยชอบ ฯ 23,0009,018,จบสูตรที่ ๒