Book,Page,LineNumber,Text 23,0007,001,พระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมา โดยเหตุที่ 23,0007,002,มิคารเศรษฐีผู้เป็นหลานโรหณเศรษฐี เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคสมบัติมากถึงเพียงนี้ พระ 23,0007,003,ผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรอุคคะ ก็มิคารเศรษฐีหลานโรหณเศรษฐี มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มี 23,0007,004,โภคสมบัติมากสักเท่าไร ฯ 23,0007,005,อุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มีทองแสนลิ่ม จะกล่าวไปไยถึงเงิน ฯ 23,0007,006,พ. ดูกรอุคคะ ทรัพย์นั้นมีอยู่แล เรามิได้กล่าวว่าไม่มี แต่ทรัพย์นั้นแล เป็นของทั่วไป 23,0007,007,แก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ดูกรอุคคะทรัพย์ ๗ ประการนี้แล ไม่ทั่วไป 23,0007,008,แก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ๗ ประการเป็นไฉน คือ ทรัพย์คือ ศรัทธา ๑ 23,0007,009,ศีล ๑ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑ ดูกรอุคคะ ทรัพย์ ๗ ประการนี้แล 23,0007,010,ไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ฯ 23,0007,011,ทรัพย์ คือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ สุตะ จาคะ 23,0007,012,และปัญญาเป็นที่ ๗ ทรัพย์เหล่านี้มีแก่ผู้ใด เป็นหญิงหรือ ชายก็ 23,0007,013,ตาม เป็นผู้มีทรัพย์มากในโลก อันอะไรๆ พึงผจญ 23,0007,014,ไม่ได้ในเทวดาและมนุษย์ เพราะฉะนั้น ท่านผู้มีปัญญา เมื่อ 23,0007,015,ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พึงประกอบศรัทธา 23,0007,016,ศีล ความเลื่อมใส และการเห็นธรรม ฯ 23,0007,017,จบสูตรที่ ๗ 23,0007,018,สังโยชนสูตร 23,0007,019,[๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๗ ประการนี้ ๗ ประการเป็นไฉน คือ สังโยชน์ 23,0007,020,คือ ความยินดี ๑ ความยินร้าย ๑ ความเห็นผิด ๑ ความสงสัย ๑ มานะ ๑ ความกำหนัดใน 23,0007,021,ภพ ๑ อวิชชา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๗ ประการนี้แล ฯ 23,0007,022,จบสูตรที่ ๘