Book,Page,LineNumber,Text 21,0013,001,และภิกษุไม่ยินดีละ บรรเทา กระทำให้พินาศซึ่งวิตกนั้น ให้ถึงความไม่มี ภิกษุแม้นอนตื่นอยู่ 21,0013,002,เป็นอย่างนี้ เราเรียกว่า ผู้มีความเพียร มีโอตตัปปะ มีความเพียรอันปรารภแล้วเป็นนิจนิรันดร 21,0013,003,มีใจเด็ดเดี่ยว ฯ 21,0013,004,ถ้าภิกษุใด เดินก็ตาม ยืนก็ตาม นั่งหรือนอนก็ตาม ย่อม 21,0013,005,ตรึกถึงวิตกอันลามกอิงอาศัยกิเลส ภิกษุผู้เช่นนั้น เป็นผู้ 21,0013,006,ดำเนินไปสู่ทางผิด หมกมุ่นแล้วในอารมณ์ อันยังความ 21,0013,007,ลุ่มหลงให้เกิด เป็นผู้ไม่ควรเพื่อบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม 21,0013,008,แต่ถ้าภิกษุใดเดินก็ตาม ยืนก็ตาม นั่งหรือนอนก็ตาม 21,0013,009,ยังวิตก ให้สงบแล้ว ยินดีในธรรม เป็นที่สงบวิตก 21,0013,010,ภิกษุเช่นนั้น เป็นผู้ควรเพื่อบรรลุซึ่งสัมโพธิญาณอันอุดม ฯ 21,0013,011,จบสูตรที่ ๑ 21,0013,012,ศีลสูตร 21,0013,013,[๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์ 21,0013,014,จงเป็นผู้สำรวมในปาติโมกขสังวร สมบูรณ์ด้วยอาจาระและโคจรมีปรกติเห็นภัยในโทษอันมีประมาณ 21,0013,015,น้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลายเมื่อเธอทั้งหลายมีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์ 21,0013,016,สำรวมในปาติโมกข์สังวรสมบูรณ์ด้วยอาจาระและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษอันมีประมาณน้อย 21,0013,017,สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย กิจที่ควรทำยิ่งกว่านี้ จะพึงมีอะไรเล่า ถ้าแม้ภิกษุกำลังเดินไป 21,0013,018,อภิชฌาไปปราศแล้ว พยาบาทไปปราศแล้ว ละถีนมิทธะได้แล้วละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว ละวิจิ 21,0013,019,กิจฉาได้แล้ว ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อนมีสติมั่นไม่หลงลืม มีกายสงบไม่ระส่ำระสาย มีจิตมั่นคง 21,0013,020,มีอารมณ์เป็นหนึ่งภิกษุแม้เดินอยู่เป็นอย่างนี้ เราเรียกว่า ผู้มีความเพียร มีโอตตัปปะ มีความ 21,0013,021,เพียรอันปรารภแล้วเป็นนิจนิรันดร มีใจเด็ดเดี่ยว ถ้าแม้ภิกษุยืนอยู่ ... ถ้าแม้ภิกษุนั่งอยู่ ... ถ้าแม้ 21,0013,022,ภิกษุนอนตื่นอยู่ อภิชฌาไปปราศแล้ว พยาบาทไปปราศแล้วละถีนมิทธะได้แล้ว ละอุทธัจจกุก 21,0013,023,กุจจะได้แล้ว ละวิจิกิจฉาได้แล้ว ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน มีสติมั่นไม่หลงลืม มีกายสงบ 21,0013,024,ไม่ระส่ำระสาย มีจิตมั่นคงมีอารมณ์เป็นหนึ่ง ภิกษุแม้นอนตื่นอยู่เป็นอย่างนี้ เราเรียกว่า ผู้มีความ 21,0013,025,เพียรมีโอตตัปปะ มีความเพียรอันปรารภแล้วเป็นนิจนิรันดร มีใจเด็ดเดี่ยว ฯ