Book,Page,LineNumber,Text 15,0005,001,[๑๖] ธรรมทั้งหลาย อันชนพวกใดแทงตลอดดีแล้ว ชนพวกนั้น ย่อมไม่ถูก 15,0005,002,จูงไปในวาทะของชนพวกอื่น บุคคลผู้รู้ดีทั้งหลาย รู้ทั่วถึงโดยชอบแล้ว 15,0005,003,ย่อมประพฤติเสมอในหมู่สัตว์ผู้ประพฤติไม่เสมอ ฯ 15,0005,004,สุสัมมุฏฐสูตรที่ ๘ 15,0005,005,[๑๗] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้กล่าว คาถานี้ในสำนัก 15,0005,006,พระผู้มีพระภาคว่า 15,0005,007,ธรรมทั้งหลายอันชนพวกใดลืมเลือนแล้ว ชนพวกนั้น ย่อมถูกจูงไปใน 15,0005,008,วาทะของชนพวกอื่น ชนพวกนั้นชื่อว่ายังหลับไม่ตื่น(กาลนี้) เป็นกาล 15,0005,009,ควรเพื่อจะตื่นของชนพวกนั้น ฯ 15,0005,010,[๑๘] ธรรมทั้งหลาย อันชนพวกใดไม่ลืมเลือนแล้ว ชนพวกนั้นย่อมไม่ถูก 15,0005,011,จูงไปในวาทะของชนพวกอื่น บุคคลผู้รู้ดีทั้งหลายรู้ทั่วถึงโดยชอบแล้ว 15,0005,012,ย่อมประพฤติเสมอในหมู่สัตว์ผู้ประพฤติไม่เสมอ ฯ 15,0005,013,มานกามสูตรที่ ๙ 15,0005,014,[๑๙] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้กล่าว คาถานี้ในสำนัก 15,0005,015,พระผู้มีพระภาคว่า 15,0005,016,ทมะย่อมไม่มีแก่บุคคลที่ปรารถนามานะ ความรู้ย่อมไม่มีแก่บุคคลที่มี 15,0005,017,จิตไม่ตั้งมั่น บุคคลผู้เดียว เมื่ออยู่ในป่าประมาทแล้ว ไม่พึงข้ามพ้นฝั่ง 15,0005,018,แห่งเตภูมิกวัฏอันเป็นที่ตั้งแห่งมัจจุได้ ฯ 15,0005,019,[๒๐] บุคคลละมานะแล้ว มีจิตตั้งมั่นดีแล้ว มีจิตดี พ้นในธรรมทั้งปวงแล้ว 15,0005,020,เป็นผู้เดียว เมื่ออยู่ในป่า ไม่ประมาทแล้วบุคคลนั้นพึงข้ามฝั่งแห่ง 15,0005,021,เตภูมิกวัฏเป็นที่ตั้งแห่งมัจจุได้ ฯ