Book,Page,LineNumber,Text 14,0041,001,นั้นแล ลุกลามต่อไปในที่นั้นการละมูลเหตุแห่งความวิวาทอันลามกนี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการ 14,0041,002,เช่นนี้ ความไม่ลุกลามต่อไปของมูลเหตุแห่งความวิวาทอันลามกนี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการเช่นนี้ 14,0041,003,ดูกรอานนท์เหล่านี้แล มูลเหตุแห่งความวิวาท ๖ อย่าง ฯ 14,0041,004,[๕๗] ดูกรอานนท์ อธิกรณ์นี้มี ๔ อย่าง ๔ อย่างเป็นไฉน คือ วิวาทาธิกรณ์ 14,0041,005,อนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์ กิจจาธิกรณ์ ดูกรอานนท์ เหล่านี้แลอธิกรณ์ ๔ อย่าง ฯ 14,0041,006,ดูกรอานนท์ ก็อธิกรณ์สมถะนี้มี ๗ อย่างแล คือ เพื่อระงับอธิกรณ์อันเกิดแล้วๆ 14,0041,007,สงฆ์พึงใช้สัมมุขาวินัย สติวินัย อมุฬหวินัย ปฏิญญาตกรณะเยภุยยสิกา ตัสสปาปิยสิกา 14,0041,008,ติณวัตถารกะ ฯ 14,0041,009,[๕๘] ดูกรอานนท์ ก็สัมมุขาวินัยเป็นอย่างไร คือ พวกภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อม 14,0041,010,วิวาทกัน ว่าเป็นธรรมหรือมิใช่ธรรม ว่าเป็นวินัยหรือมิใช่วินัย ดูกร อานนท์ ภิกษุเหล่านั้น 14,0041,011,ทั้งหมดแล พึงพร้อมเพรียงกันประชุมพิจารณาแบบแผนธรรม ครั้นพิจารณาแล้ว พึงให้อธิกรณ์ 14,0041,012,นั้นระงับโดยอาการที่เรื่องลงกันได้ในแบบแผนธรรมนั้น ดูกรอานนท์ อย่างนี้แล เป็นสัมมุขา 14,0041,013,วินัย ก็แหละความระงับอธิกรณ์บางอย่างในธรรมวินัยนี้ ย่อมมีได้ด้วยสัมมุขาวินัยอย่างนี้ ฯ 14,0041,014,[๕๙] ดูกรอานนท์ ก็เยภุยยสิกาเป็นอย่างไร คือ ภิกษุเหล่านั้นไม่อาจ ระงับอธิกรณ์ 14,0041,015,นั้นในอาวาสนั้นได้ พึงพากันไปยังอาวาสที่มีภิกษุมากกว่า ภิกษุทั้งหมดพึงพร้อมเพรียงกัน 14,0041,016,ประชุมในอาวาสนั้น ครั้นแล้วพึงพิจารณาแบบแผนธรรมครั้นพิจารณาแล้ว พึงให้อธิกรณ์นั้น 14,0041,017,ระงับโดยอาการที่เรื่องลงกันได้ในแบบแผนธรรมนั้น ดูกรอานนท์ อย่างนี้แล เป็นเยภุยยสิกา 14,0041,018,ก็แหละ ความระงับอธิกรณ์ บางอย่างในธรรมวินัยนี้ ย่อมมีได้ด้วยเยภุยยสิกาอย่างนี้ ฯ 14,0041,019,[๖๐] ดูกรอานนท์ ก็สติวินัยเป็นอย่างไร คือ พวกภิกษุในธรรมวินัยนี้ โจทภิกษุ 14,0041,020,ด้วยอาบัติหนักเห็นปานนี้ คือ ปาราชิก หรือใกล้เคียงปาราชิกว่า ท่านผู้มีอายุระลึกได้หรือไม่ว่า 14,0041,021,ท่านต้องอาบัติหนักเห็นปานนี้ คือปาราชิกหรือใกล้เคียงปาราชิกแล้ว ภิกษุนั้นตอบอย่างนี้ว่า