Book,Page,LineNumber,Text 14,0016,001,ได้ดมกลิ่นด้วยฆานะ ... ได้ลิ้มรสด้วยชิวหา ... ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย ... ได้รู้แจ้ง 14,0016,002,ธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว ย่อมไม่เป็นผู้ถือเอาโดยนิมิตและโดยอนุพยัญชนะ ย่อม ปฏิบัติเพื่อสำรวม 14,0016,003,มนินทรีย์ ที่เมื่อไม่สำรวมแล้ว พึงเป็นเหตุให้อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัสครอบงำ 14,0016,004,ได้ ย่อมรักษามนินทรีย์ ถึงความสำรวมในมนินทรีย์ ฯ 14,0016,005,[๑๘] เธอประกอบด้วยอินทรีย์สังวรอันเป็นอริยะ เช่นนี้แล้ว ย่อมเสวยสุขอันไม่ 14,0016,006,เจือทุกข์ในภายใน เป็นผู้ทำความรู้สึกตัวในเวลาก้าวไปและถอย กลับ ในเวลาแลดูและเหลียวดู 14,0016,007,ในเวลาคู้เข้าและเหยียดออก ในเวลาทรง สังฆาฏิ บาตรและจีวร ในเวลาฉัน ดื่ม เคี้ยว 14,0016,008,และลิ้ม ในเวลาถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ ในเวลาเดิน ยืน นั่ง นอนหลับ ตื่น พูด 14,0016,009,และนิ่ง ฯ 14,0016,010,[๑๙] เธอประกอบด้วยศีลขันธ์อันเป็นอริยะเช่นนี้ ประกอบด้วย อินทรีย์สังวรอันเป็น 14,0016,011,อริยะเช่นนี้ และประกอบด้วยสติสัมปชัญญะอันเป็นอริยะ เช่นนี้แล้ว ย่อมพอใจเสนาสนะ 14,0016,012,อันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ถ้ำป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และลอมฟาง เธอกลับจาก 14,0016,013,บิณฑบาต ภายหลังเวลาอาหารแล้ว นั่งคู่บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่นเฉพาะหน้า ละอภิชญา 14,0016,014,ในโลกได้แล้วมีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากอภิชฌา ละความประทุษร้าย 14,0016,015,คือพยาบาท เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์อยู่ย่อมชำระจิต 14,0016,016,ให้บริสุทธิ์จากความประทุษร้ายคือพยาบาท ละถีนมิทธะแล้ว เป็นผู้มีจิตปราศจากถีนมิทธะ 14,0016,017,มีอาโลกสัญญา มีสติสัมปชัญญะอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากถีนมิทธะได้ ละอุทธัจจะกุกกุจจะ 14,0016,018,แล้ว เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบภายในอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากอุทธัจจะกุกกุจจะได้ 14,0016,019,ละวิจิกิจฉาแล้วเป็นผู้ข้ามความสงสัย ไม่มีปัญหาอะไรในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ ย่อมชำระจิต 14,0016,020,ให้บริสุทธิ์จากวิจิกิจฉาได้ ฯ 14,0016,021,[๒๐] เธอครั้นละนิวรณ์ ๕ ประการอันเป็นเครื่องทำใจให้เศร้าหมอง ทำปัญญาให้ถอย 14,0016,022,กำลังนี้ได้แล้ว จึงสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม เข้าปฐมฌานมีวิตก มีวิจาร มีปีติและ 14,0016,023,สุขเกิดแต่วิเวกอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ก็ชื่อว่าความพยายามมีผล ความเพียรมีผล ฯ