Book,Page,LineNumber,Text 11,0035,001,[๒๖] นิโครธปริพาชกกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็การหน่ายบาปด้วยตบะ 11,0035,002,เป็นกิริยาที่ถึงยอดและถึงแก่น ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ขอประทาน พระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาค 11,0035,003,จงให้ข้าพระองค์ถึงยอดถึงแก่นแห่งการหน่ายบาป ด้วยตบะเถิด ฯ 11,0035,004,พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรนิโครธะ บุคคลผู้มีตบะในโลกนี้ เป็นผู้ สังวรแล้วด้วย 11,0035,005,สังวร ๔ ประการ ๔ ประการเป็นไฉน 11,0035,006,ดูกรนิโครธะ บุคคลผู้มีตบะในโลกนี้ 11,0035,007,๑. ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ใช้ผู้อื่นให้ฆ่าสัตว์ เมื่อผู้อื่นฆ่าสัตว์ ไม่เป็นผู้ดีใจ ฯ 11,0035,008,๒. ไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ไม่ใช้ให้ผู้อื่นถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ 11,0035,009,เมื่อผู้อื่นถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ไม่เป็นผู้ดีใจ ฯ 11,0035,010,๓. ไม่พูดเท็จ ไม่ใช้ผู้อื่นให้พูดเท็จ เมื่อผู้อื่นพูดเท็จ ไม่เป็นผู้ดีใจ ฯ 11,0035,011,๔. ไม่เสพกามคุณ ไม่ใช้ให้ผู้อื่นเสพกามคุณ เมื่อผู้อื่นเสพกามคุณไม่เป็นผู้ดีใจ ฯ 11,0035,012,ดูกรนิโครธะ บุคคลผู้มีตบะเป็นผู้สังวรแล้วด้วยสังวร ๔ ประการอย่างนี้ ดูกรนิโครธะ เพราะว่า 11,0035,013,บุคคลผู้มีตบะเป็นผู้สังวรแล้วด้วยสังวร ๔ ประการ ข้อที่จะกล่าวต่อไปนี้ จึงเป็นลักษณะ 11,0035,014,ของเขา เพราะเป็นผู้มีตบะ เขารักษายิ่งซึ่งศีล ไม่เวียนมาเพื่อเพศอันเลว เขาเสพเสนาสนะอัน 11,0035,015,สงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำในภูเขา ป่าช้า ป่าชัด ที่แจ้ง ลอมฟาง ใน 11,0035,016,ปัจฉาภัต เขากลับ จากบิณฑบาตแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้จำเพาะหน้า เขาละ 11,0035,017,ความเพ่งเล็งในโลกเสียแล้ว มีใจปราศจากความเพ่งเล็ง ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จาก ความเพ่ง 11,0035,018,เล็งได้ ละความประทุษร้าย คือ พยาบาท ไม่พยาบาท มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้ง 11,0035,019,ปวงอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากความประทุษร้าย คือ พยาบาทได้ ละถีนมิทธะแล้ว เป็นผู้ 11,0035,020,ปราศจากถีนมิทธะ มีความกำหนดหมายอยู่ ที่แสงสว่าง มีสติ มีสัมปชัญญะอยู่ ย่อมชำระจิตให้ 11,0035,021,บริสุทธิ์จากถีนมิทธะได้ละอุทธัจจกุกกุจจะ เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบ ณ ภายในอยู่ ย่อมชำระ 11,0035,022,จิตให้บริสุทธิ์จากอุทธัจจกุกกุจจะได้ ละวิจิกิจฉา เป็นผู้ข้ามวิจิกิจฉา ไม่มีความสงสัย ในกุศลธรรม 11,0035,023,ทั้งหลายอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากวิจิกิจฉาได้ เขาละนิวรณ์ ๕ เหล่านี้ อันเป็นอุปกิเลส 11,0035,024,แห่งใจที่ทำให้ปัญญาถอยกำลัง มีใจประกอบด้วยเมตตาแผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ทิศที่