Book,Page,LineNumber,Text 03,0040,001,แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุณีมีชื่อนี้ผู้นี้ โกรธ ขัดใจ กล่าวอย่างนี้ว่า 03,0040,002,ข้าพเจ้าขอบอกคืนพระพุทธเจ้า ขอบอกคืนพระธรรม ขอบอกคืนพระสงฆ์ ขอบอกคืนสิกขา 03,0040,003,ภิกษุณีที่ชื่อว่าสมณี จะมีเฉพาะสมณีศากยธิดาเหล่านี้เมื่อไร แม้สมณีเหล่าอื่นที่มีความละอาย 03,0040,004,มีความรังเกียจ ผู้ใคร่ต่อสิกขาก็ยังมี ข้าพเจ้าจักไปประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักสมณีเหล่านั้น 03,0040,005,ดังนี้ นางยังไม่สละวัตถุนั้น สงฆ์สวดสมนุภาสภิกษุณีมีชื่อนี้ เพื่อให้สละวัตถุนั้น การสวด 03,0040,006,สมนุภาสภิกษุณีมีชื่อนี้ เพื่อให้สละวัตถุนั้น ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้านั้นพึงนิ่ง ไม่ชอบแก่ 03,0040,007,แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด. 03,0040,008,ข้าพเจ้ากล่าวความนี้เป็นครั้งที่สอง ... 03,0040,009,ข้าพเจ้ากล่าวความนี้เป็นครั้งที่สาม ... 03,0040,010,ภิกษุณีมีชื่อนี้ อันสงฆ์สวดสมนุภาสแล้ว เพื่อให้สละวัตถุนั้นชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้น 03,0040,011,จึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้. 03,0040,012,[๖๕] จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ. จบกรรมวาจาสองครั้ง ต้องอาบัติถุลลัจจัย. จบกรรม 03,0040,013,วาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส. เมื่อต้องอาบัติสังฆาทิเสส อาบัติทุกกฏเพราะญัตติ อาบัติ 03,0040,014,ถุลลัจจัยเพราะกรรมวาจาสองครั้ง ย่อมระงับ. 03,0040,015,[๖๖] บทว่า แม้นี้ พระผู้มีพระภาคตรัสเทียบเคียงภิกษุณีรูปก่อน. 03,0040,016,บทว่า มีอันให้ต้องอาบัติในเมื่อสวดสมนุภาสครบสามจบ คือ ต้องอาบัติเพราะสวด 03,0040,017,สมนุภาสจบครั้งที่สาม ไม่ใช่ต้องพร้อมกับการล่วงวัตถุ. 03,0040,018,ที่ชื่อว่า นิสสารณียะ ได้แก่ ถูกขับออกจากหมู่. 03,0040,019,บทว่า สังฆาทิเสส ความว่า สงฆ์เท่านั้นให้มานัต ... แม้เพราะเหตุนั้น จึงตรัสว่า 03,0040,020,สังฆาทิเสส. 03,0040,021,บทภาชนีย์ 03,0040,022,ติกะสังฆาทิเสส 03,0040,023,[๖๗] กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมเป็นธรรม ไม่สละ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส. 03,0040,024,กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ไม่สละ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส. 03,0040,025,กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมไม่เป็นธรรม ไม่สละ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส. 03,0040,026,ติกะทุกกฏ 03,0040,027,กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมเป็นธรรม ต้องอาบัติทุกกฏ.