Book,Page,LineNumber,Text 31,0020,001,ธรรมอย่างหนึ่งควรเจริญ คือ กายคตาสติอันสหรคตด้วยความสำราญ ธรรม ๒ ควร 31,0020,002,เจริญ คือ สมถะ ๑ วิปัสนา ๑ ธรรม ๓ ควรเจริญ คือ สมาธิ ๓ธรรม ๔ ควรเจริญ คือ 31,0020,003,สติปัฏฐาน ๔ ธรรม ๕ ควรเจริญ คือ สัมมาสมาธิมีองค์ ๕ ธรรม ๖ ควรเจริญ คือ อนุสสติ ๖ 31,0020,004,ธรรม ๗ ควรเจริญ คือ โพชฌงค์ ๗ธรรม ๘ ควรเจริญ คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ ธรรม ๙ ควร 31,0020,005,เจริญ คือ องค์อันเป็นประธานแห่งความบริสุทธิ์ [ปาริสุทธิ] ๙ ธรรม ๑๐ ควรเจริญ คือ กสิณ ๑๐ ฯ 31,0020,006,[๖๘] ภาวนา ๒ คือโลกิยภาวนา ๑ โลกุตรภาวนา ๑ ภาวนา ๓ คือ การเจริญธรรม 31,0020,007,อันเป็นรูปาวจรกุศล ๑ การเจริญธรรมอันเป็นอรูปาวจรกุศล ๑ การเจริญกุศลธรรมอันไม่นับเนื่อง 31,0020,008,ในโลก [โลกุตรกุศล] ๑ การเจริญธรรมอันเป็นรูปาวจรกุศล เป็นส่วนเลวก็มี เป็นส่วนปาน 31,0020,009,กลางก็มี เป็นส่วนประณีตก็มี การเจริญธรรมอันเป็นอรูปาวจรกุศล เป็นส่วนเลวก็มี เป็นส่วน 31,0020,010,ปานกลางก็มี เป็นส่วนประณีตก็มี การเจริญกุศลธรรมอันไม่นับเนื่องในโลก เป็นส่วนประณีต 31,0020,011,อย่างเดียว ภาวนา ๔ คือ เมื่อแทงตลอดทุกขสัจ อันเป็นการแทงตลอดด้วยปริญญา ชื่อว่า 31,0020,012,เจริญอยู่ ๑ เมื่อแทงตลอดสมุทัยสัจอันเป็นการแทงตลอดด้วยปหานะ ชื่อว่าเจริญอยู่ ๑ เมื่อแทง 31,0020,013,ตลอดนิโรธสัจอันเป็นการแทงตลอดด้วยสัจฉิกิริยา ชื่อว่าเจริญอยู่ ๑ เมื่อแทงตลอดมรรคสัจอัน 31,0020,014,เป็นการแทงตลอดด้วยภาวนา ชื่อว่าเจริญอยู่ ๑ ภาวนา ๔ นี้ ฯ 31,0020,015,[๖๙] ภาวนา ๔ อีกประการหนึ่ง คือ เอสนาภาวนา ๑ ปฏิลาภภาวนา ๑ เอกรสา 31,0020,016,ภาวนา ๑ อาเสวนาภาวนา ๑ ฯ 31,0020,017,เอสนาภาวนาเป็นไฉน เมื่อพระโยคาวจรทั้งปวงเข้าสมาธิอยู่ ธรรมทั้งหลายที่เกิดใน 31,0020,018,ธรรมอันเป็นส่วนเบื้องต้นนั้น มีกิจเป็นอย่างเดียวกัน เพราะฉะนั้น ภาวนานี้ จึงชื่อว่าเอสนาภาวนา ฯ 31,0020,019,ปฏิลาภภาวนาเป็นไฉน เมื่อพระโยคาวจรทั้งปวงเข้าสมาธิแล้ว ธรรม ทั้งหลายที่เกิดใน 31,0020,020,สมาธินั้น ไม่เป็นไปล่วงกันและกัน เพราะฉะนั้น ภาวนานี้จึงชื่อว่าปฏิลาภภาวนา ฯ 31,0020,021,[๗๐] เอกรสาภาวนาเป็นไฉน เมื่อพระโยคาวจรเจริญสัทธินทรีย์ ด้วยอรรถว่าน้อมใจ 31,0020,022,เชื่อ อินทรีย์อีก ๔ อย่าง มีกิจเป็นอย่างเดียวกันด้วยสามารถแห่งสัทธินทรีย์ เพราะฉะนั้น ชื่อว่า 31,0020,023,ภาวนา ด้วยอรรถว่าอินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอย่างเดียวกัน เมื่อพระโยคาวจรเจริญวิริยินทรีย์ด้วย 31,0020,024,อรรถว่าประคองไว้ ... เมื่อเจริญสตินทรีย์ด้วยอรรถว่าตั้งมั่น ... เมื่อเจริญสมาธินทรีย์ด้วยอรรถว่าไม่ 31,0020,025,ฟุ้งซ่าน... เมื่อเจริญปัญญินทรีย์ด้วยอรรถว่าเห็น อินทรีย์อีก ๔ อย่าง มีกิจอย่างเดียวกันด้วย 31,0020,026,สามารถปัญญินทรีย์ เพราะฉะนั้นชื่อว่าภาวนา ด้วยอรรถว่าอินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอย่างเดียวกัน ฯ