Book,Page,LineNumber,Text 15,0023,001,บุคคลแม้ใด ย่อมประพฤติธรรม ประพฤติสะอาด เป็นผู้เลี้ยงภริยา 15,0023,002,และเมื่อของมีน้อยก็ให้ได้ เมื่อบุรุษแสนหนึ่งบูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือ 15,0023,003,บริจาคทรัพย์พันกหาปณะ การบูชาของบุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่ถึงส่วน 15,0023,004,ร้อย ของบุคคลอย่างนั้น ฯ 15,0023,005,[๙๒] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวกะพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า 15,0023,006,การบูชาอันไพบูลย์ใหญ่โตนี้ ย่อมไม่เท่าถึงส่วนแห่งทานที่บุคคลให้ 15,0023,007,ด้วยความประพฤติธรรม เพราะเหตุอะไร เมื่อบุรุษแสนหนึ่งบูชาภิกษุ 15,0023,008,พันหนึ่ง หรือบริจาคทรัพย์พันกหาปณะการบูชาของบุรุษเหล่านั้นย่อม 15,0023,009,ไม่ถึงส่วนร้อยของบุคคลอย่างนั้น ฯ 15,0023,010,[๙๓] ในลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเทวดานั้นด้วย พระคาถาว่า 15,0023,011,บุคคลเหล่าหนึ่ง ตั้งอยู่ในกรรมปราศจากความสงบ (ปราศจากธรรม) 15,0023,012,โบยเขา ฆ่าเขา ทำให้เขาเศร้าโศกแล้วให้ทานทานนั้นจัดว่าทาน 15,0023,013,มีหน้าอันนองด้วยน้ำตา จัดว่าทานเป็นไปกับด้วยอาชญา จึงย่อมไม่เท่า 15,0023,014,ถึงส่วนแห่งทานที่ให้ด้วยความสงบ(ประพฤติธรรม) เมื่อบุรุษแสนหนึ่ง 15,0023,015,บูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือบริจาคทรัพย์พันกหาปณะ การบูชาของบุรุษ 15,0023,016,เหล่านั้น ย่อมไม่ถึงส่วนร้อยของบุคคลอย่างนั้น โดยนัยอย่างนี้ ฯ 15,0023,017,สาธุสูตรที่ ๓ 15,0023,018,[๙๔] ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว พวกเทวดาสตุลลปกายิกามากด้วยกัน 15,0023,019,มีวรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาคถึงที่ 15,0023,020,ประทับ ครั้นถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้ว จึงได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ 15,0023,021,[๙๕] เทวดาองค์หนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้เปล่งอุทานนี้ใน 15,0023,022,สำนักพระผู้มีพระภาคว่า