Book,Page,LineNumber,Text
26,0004,001,คำแสดงว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นครูของชาวโลก. ด้วยคำว่า ภิกฺขู< /B>
26,0004,002,เป็นคำระบุถึงบุคคลผู้ควรแก้การฟังพระดำรัส อีกนัยหนึ่ง ในคำว่า ภิกฺขู
26,0004,003,นี้ พึงทราบความหมายถ้อยคำโดยนัยเป็นต้นว่า ที่ชื่อว่าภิกษุ เพราะอรรถ
26,0004,004,ว่า ขอ ( และ) ที่ชื่อว่าภิกษุ เพราะอรรถว่า เข้าถึงการภิกษาจาร. บทว่า
26,0004,005,อามนฺเตสิ แปลว่า ตรัสเรียก คือได้ตรัส ได้แก่ ให้รู้ตัว. ในคำว่า
26,0004,006,อามนฺเตสิ นี้ มีอธิบายดังนี้ แต่ในที่อื่นมีความหมายว่าให้รู้เหมือนอย่าง
26,0004,007,ที่ตรัสไว้ว้า ภิกษุทั้งหลาย เราขอเดือนเธอทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายเรา
26,0004,008,ขอประกาศแก่เธอทั้งหลาย. มีความหมายว่าเรียกก็มี เหมือนอย่างที่ตรัส
26,0004,009,ไว้ว่า มาเถิดภิกษุ เธอจงเรียกพระสารีบุตรมาตามคำของเรา. บทว่า
26,0004,010,ภิกฺขโว เป็นบทแสดงอาการ คือการตรัสเรียก. ก็คำว่า ภิกฺขโว นั้น
26,0004,011,พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่เหล่าภิกษุ เพราะสำเร็จด้วยการประกอบ
26,0004,012,ด้วยคุณมีความเป็นผู้ขอเป็นปกติก็ดี ผู้ประกอบด้วยคุณมีการขอเป็น
26,0004,013,ธรรมดาก็ดี ผู้ประกอบด้วยคุณคือทำความดีในเพราะการขอก็ดี ชื่อว่า
26,0004,014,ภิกษุ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อทรงประกาศความประพฤติ
26,0004,015,ของภิกษุเหล่านั้น อันคนชั้นเลวและคนชั้นดีเสพแล้ว ด้วยถ้อยคำที่สำเร็จ
26,0004,016,ด้วยการประกอบด้วยคุณ มีการขอเป็นปกติเป็นต้น จึงทรงทำการข่มภาวะ
26,0004,017,ที่เหล่าภิกษุผู้ผยองขึ้นเป็นต้น.
26,0004,018,อนึ่ง ด้วยคำว่า ภิกฺขโว นี้ ซึ่งมีการทอดพระเนตรลง อัน
26,0004,019,แสดงถึงพระฤทัยอันเยือกเย็นซึ่งแผ่ซ่านด้วยพระกรุณา พระผู้มีพระ-
26,0004,020,ภาคเจ้าทรงกระทำภิกษุเหล่านั้นให้หันมาทางพระองค์ ทรงให้ภิกษุ
26,0004,021,เหล่านั้นเกิดความเป็นผู้ใคร่ฟัง ด้วยพระดำรัสซึ่งแสดงความเป็นผู้ใคร่จะ
26,0004,022,ตรัสนั้นนั่นแล ทรงประกอบภิกษุเหล่านั้นไว้ในมนสิการด้วยดี ด้วย