Book,Page,LineNumber,Text
25,0047,001,ถามว่า พระศาสดาไม่ทรงทราบการดลใจของมารหรือจึงเสด็จเข้าไป.
25,0047,002,ตอบว่าใช่ไม่ทรงทราบ. เพราะเหตุไร. เพราะไม่ทรงนึกไว้. จริงอยู่ การนึก
25,0047,003,ว่าเราจักได้หรือไม่ได้อาหารในที่โน้น ดังนี้ ไม่สมควรแก่พระพุทธทั้งหลาย.
25,0047,004,ก็พระศาสดาเสด็จเข้าไปแล้ว ทรงเห็นความผิดแผกแห่งการปฏิบัติของเหล่าผู้คน
25,0047,005,ทรงนึกว่า นี้อะไรกัน ก็ทรงทราบ ทรงพระดำริว่า การทำลายการดลใจของ
25,0047,006,มาร เพื่ออามิสไม่สมควร จึงไม่ทรงทำลายเสด็จออกไปเสีย.
25,0047,007,บทว่า อุปสงฺกมิ ความว่า มารดีใจเหมือนชนะศัตรู จึงแปลงเพศ
25,0047,008,เป็นชาวบ้านเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ไม่ได้อาหารแม้เพียงทัพพีเดียว
25,0047,009,ในบ้านทั้งสิ้น กำลังเสด็จออกไปจากหมู่บ้าน. คำว่า ตถาหํ กริสฺสามิ นี้เป็น
25,0047,010,คำที่มารพูดเท็จ ได้ยินว่า มารนั้นคิดอย่างนี้ว่า เมื่อเรากล่าวอย่างนี้แล้ว พระ-
25,0047,011,สมณโคดมเสด็จเข้าไปอีก ที่นั้น พวกเด็กชาวบ้านก็จักพูดเยาะเย้ยเป็นต้นว่า
25,0047,012,พระสมณโคดมเที่ยวไปทั่วบ้าน ไม่ได้ภิกษาแม้แต่ทัพพีเดียว ออกจากหมู่บ้าน
25,0047,013,แล้วยังเสด็จเข้าไปอีก ดังนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระดำริว่า ถ้ามารนี้
25,0047,014,จักเบียดเบียนเราอย่างนี้ ศีรษะของเขาก็จักแตก ๗ เสี่ยงแน่ จึงไม่เสด็จเข้าไป
25,0047,015,ด้วยทรงเอ็นดูในมารนั้นจึงตรัส ๒ พระคาถา.
25,0047,016,บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปสวิ ได้แก่ให้เกิด คือให้เกิดขึ้น. บทว่า
25,0047,017,อาสชฺช นํ ได้แก่ขัดขวาง คือ กระทบแล้ว. ด้วยบทว่า น เม ปาปํ วิปจฺจติ
25,0047,018,ทรงแสดงว่าท่านยังจะสำคัญอยู่อย่างนี้หรือว่า บาปจะไม่ให้ผลแก่เรา คือบาป
25,0047,019,นั้นไม่มีผล ท่านอย่าสำคัญอย่างนั้น ผลของบาปที่ท่านทำมีอยู่ ดังนี้. บทว่า
25,0047,020,กิญฺจนํ ได้แก่ ข่ายคือกิเลสมีกิเลสเครื่องกังวลคือราคะเป็นต้น ที่สามารถย่ำยีได้.
25,0047,021,บทว่า อาภสฺสรา ยถา ความว่า เราจักเป็นเหมือนเหล่าเทวดาชั้นอาภัสสระ
25,0047,022,ที่ดำรงอัตภาพด้วยฌานที่มีปิติ ชื่อว่ามีปีติเป็นภักษาหาร.
25,0047,023,จบอรรถกถาปิณฑิกสูตรที่ ๘