Book,Page,LineNumber,Text 33,0031,001,นิพพาน มีพระนิพพานเป็นเบื้องหน้า มีพระนิพพานเป็นที่สุด ท่าน 33,0031,002,วิสาขะ ท่านจงไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทูลถามความข้อนั้น พระผู้มี- 33,0031,003,พระภาคเจ้าทรงพยากรณ์อย่างไร ก็พึงทรงจำไว้อย่างนั้น. วิสาขอุบาสก 33,0031,004,เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ก็กราบทูลนัยแห่งปุจฉาและวิสัชนาถวายทุกประ- 33,0031,005,การ. พระศาสดาทรงสดับคำของวิสาขอุบาสกนั้นแล้วตรัสว่า ธิดา 33,0031,006,ของเราไม่มีตัณหาในขันธ์ทั้งหลาย ทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคต แล้วตรัส 33,0031,007,พระคาถาในพระธรรมบท ดังนี้ว่า 33,0031,008,ยสฺส ปุเร จ ปจฺฉา จ มชฺเฌ จ นตฺถิ กิญฺจนํ 33,0031,009,อกิญฺจนํ อนาทานํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. 33,0031,010,ผู้ใดไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ทั้งก่อน ทั้งหลัง 33,0031,011,ทั้งกลาง เราเรียกผู้นั้นซึ่งไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ไม่ 33,0031,012,ยึดมั่น ว่าเป็นพราหมณ์ ดังนี้. 33,0031,013,แต่นั้น ก็ประทานสาธุการแก่พระธรรมทินนาเถรีแล้วตรัสกะวิสาข- 33,0031,014,อุบาสกว่า ดูก่อนวิสาขะ ธรรมทินนาภิกษุณีเป็นบัณฑิต ธรรมทินนา- 33,0031,015,ภิกษุณีมีปัญญามาก ดูก่อนวิสาขะ ถ้าแม้ท่านพึงถามความข้อนั้น ถึงเรา 33,0031,016,ก็พึงพยากรณ์ความอย่างนั้น เหมือนอย่างที่ธรรมทินนาภิกษุณีพยากรณ์ 33,0031,017,ไว้แล้ว ความของข้อนั้นก็เป็นอย่างนั้น ท่านจงทรงจำความข้อนั้นไว้ 33,0031,018,อย่างนั้นเถิด. เรื่องนี้ตั้งขึ้นด้วยประการฉะนี้. ต่อมา พระศาสดาประทับ 33,0031,019,อยู่ ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาเหล่าภิกษุณีไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ 33,0031,020,ตามลำดับ ทรงนำจูฬเวทัลลสูตรนี้นี่แล ให้เป็นอัตถุปปัตติเหตุเกิดเรื่อง 33,0031,021,จึงทรงสถาปนาพระเถรีไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกภิกษุณี