Book,Page,LineNumber,Text 23,0010,001,ไม่กระทำไว้ในใจ. บทว่า อนาวชฺชิตวา แปลว่าไม่พิจารณา. บทว่า คามส ญฺํ 23,0010,002,ความว่า สัญญาว่าบ้านเกิดขึ้น โดยยึดว่าเป็นบ้าน หรือโดยเป็นกิเลส. แม้ใน 23,0010,003,มนุสสสัญญาก็มีนัยอย่างเดียวกันนี้แหละ. บทว่า อรญฺสญฺํ ปฏิจฺจ 23,0010,004,มนสิกโรติ เอกตฺตํ ความว่า การทำไว้ในใจซึ่งบ้านว่า เป็นอรัญญสัญญา 23,0010,005,เพราะป่าอย่างเดียวเท่านั้น อย่างนี้ว่า นี้ต้นไม้ นี้ภูเขา นี้ไพรสณฑ์ที่เขียว 23,0010,006,ชะอุ่ม. บทว่า ปกฺขนฺทติ แปลว่า หยั่งลง. บทว่า อธิมุจฺจติ แปลว่า 23,0010,007,น้อมไปว่าอย่างนี้. บทว่า เย อสฺสุ ทรถา ความว่า ความกระวน 23,0010,008,กระวายที่เป็นไปแล้วก็ดี ความกระวนกระวายเพราะกิเลสก็ดี ที่จะพึงมีเพราะ 23,0010,009,อาศัยคามสัญญาเหล่านั้น ย่อมไม่มีด้วยอรัญญสัญญาในป่านี้. แม้ในบทที่ 23,0010,010,สอง ก็นัยนี้เหมือนกัน. บทว่า อตฺถิ เจวายํ ความว่า แต่มีเพียงความ 23,0010,011,กระวนกระวายที่เป็นไป ซึ่งเกิดขึ้นเพราะอาศัยอรัญญสัญญาอย่างเดียว. บทว่า 23,0010,012,ยํ หิ โข ตตฺถ น โหติ ความว่า ความกระวนกระวายที่เป็นไปแล้ว 23,0010,013,และความกระวนกระวายเพราะกิเลสซึ่งเกิดขึ้นโดยคามสัญญา และมนุสสสัญญา 23,0010,014,นั้นย่อมไม่มีในอรัญญสัญญานี้ เหมือนช้างเป็นต้นไม่มีในปราสาทของนางวิสาขา 23,0010,015,มิคารมารดา. บทว่า ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺ€ํ ความว่า จะมีเหลืออยู่ 23,0010,016,ก็เพียงแค่ความกระวนกระวายที่เป็นไปในอรัญญสัญญานั้น. เหมือนภิกษุสงฆ์ 23,0010,017,ที่อยู่ในปราสาทของนางวิสาขามิคารมารดา. บทว่า ตํ สนฺตมิทํ อตฺถีติ 23,0010,018,ปชานาติ ความว่า รู้ชัดสิ่งนั้น ที่มีอยู่เท่านั้นว่าไม่มีอยู่. บทว่า สุญฺตรวกฺกนฺติ 23,0010,019,แปลว่า ความบังเกิดขึ้นแห่งสุญญตา. บทว่า อมนสิกริตฺวา มนุสฺสสญฺํ 23,0010,020,คือ ไม่ถือเอาคามสัญญาในบทนี้ เพราะเหตุไร. เพราะได้ยินว่า ภิกษุนั้น 23,0010,021,มีความคิดอย่างนี้ว่า เราจะยังคามสัญญาให้เกิดด้วยมนุสสสัญญา ยังมนุสสสัญญา 23,0010,022,ให้เกิดด้วยอรัญญสัญญา ยังอรัญญสัญญาให้เกิดด้วยปฐวีสัญญา ยังปฐวีสัญญา 23,0010,023,ให้เกิดด้วยอากาสานัญจายตนสัญญา ฯลฯ ยังอากิญญจัญญายตนสัญญาให้เกิดด้วย