Book,Page,LineNumber,Text 50,0042,001,เห็นด้วยปัญญาว่า สังขารย่อมแปรไปในชั่วขณะ คือย่อยยับไป จัดเป็น 50,0042,002,ภังคญาณ เพราะเพ่งความย่อยยับไปฝ่ายเดียว การพิจารณาเห็นด้วย 50,0042,003,ปัญญาว่าสังขารอย่างเดียวกันก็จริง แต่อาการของสังขารแตกต่างกัน 50,0042,004,จึงได้ชื่อแตกต่างกัน. 50,0042,005,๕/๙/๖๘ 50,0042,006,ถ. ภยตูปัฏฐานญาณ การเห็นปรากฏโดยความเป็นของน่ากลัว 50,0042,007,เทียบได้กับบาลีบางแห่งว่าอย่างไร ? และการเห็นนี้ เนื่องจากเห็น 50,0042,008,อะไรในลำดับ ? 50,0042,009,ต. เทียบได้กับบาลีว่า อุปาทาเน ภยํ ทิสฺว่า เห็นภัยใน 50,0042,010,การยึดถือแล้ว การเห็นเช่นนี้เนื่องจากเห็นโทษในสังขารว่า เป็นทุกข์ 50,0042,011,ซึ่งเรียกว่า อาทีนวญาณ. 50,0042,012,๒๔๗๓ 50,0042,013,ถ. เห็นสังขารเช่นนั้นจนหน่ายในทุกข์แล้ว ท่านว่าเป็นทาง 50,0042,014,แห่งวิสุทธิ เป็นได้อย่างไร ? จงแสดงให้เห็นชัด. 50,0042,015,ต. เป็นไปได้ในทางวิปัสสนาญาณอย่างนี้ คือ การเห็นสังขาร 50,0042,016,เช่นนั้นจนถึงหน่าย แปลว่าอุทยัพพญญาณได้บังเกิดขึ้นแล้ว จนถึง 50,0042,017,นิพพิทาญาณ เมื่อญาณนี้เกิด ความใคร่จะพ้นอันเป็นตัวมุญจิตุ- 50,0042,018,กามยตาญาณก็เกิด เพราะหน่ายแล้วก็ต้องไม่อยากจมอยู่ในสิ่งที่หน่าย 50,0042,019,แต่นั้นการหาทางพ้นอันได้แก่ปฏิสังขาญาณก็ต้องมี เพราะใคร่จะพ้น 50,0042,020,ก็ต้องหาทางพ้นเป็นธรรมดา ทางที่จะพ้นก็คือเพ่งดูความเกิดดับของ 50,0042,021,สังขารด้วยอาการที่รู้เท่า คือรู้จักสัญชาติว่าเกิดแล้วก็ต้องดับไม่ได้ยินดี