Book,Page,LineNumber,Text 50,0005,001,ย่อมประกอบด้วยสิ่งทั้งมีคุณและมีโทษ สิ่งที่ให้โทษโดยส่วนเดียว 50,0005,002,เปรียบด้วยยาพิษก็มี สิ่งที่ให้โทษในเมื่อเกินพอดี เปรียบด้วยของ 50,0005,003,มึนเมาก็มี สิ่งอันเป็นอุปการะเปรียบด้วยอาหารและเภสัชอันสบายก็มี 50,0005,004,แต่ใช้ในทางผิดอาจให้โทษได้. รวมความว่า ในโลกย่อมมีพร้อมมูล 50,0005,005,บริบูรณ์ด้วยสิ่งที่มีคุณและมีโทษ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงชวน 50,0005,006,ให้ดู ก็ด้วยมีพระประสงค์เพื่อให้ผู้รู้จักสิ่งที่เป็นจริง จักได้ละสิ่งที่ 50,0005,007,เป็นโทษ ไม่ข้องไม่ติดในสิ่งที่เป็นคุณ. 50,0005,008,ส. ป. 50,0005,009,ถ. โลกที่ตระการตาย่อมเป็นที่ติดของคนทุกคนมิใช่หรือ เหตุ 50,0005,010,ไฉน พระบรมศาสดาจึงทรงชวนให้มาดูเล่า ก็เท่ากับพระองค์ทรงล่อ 50,0005,011,ให้ติดน่ะซิ ? 50,0005,012,ต. ไม่เป็นเช่นนั้น จะคิดก็แต่คนโว่คนพาล ผู้มีปัญญาย่อม 50,0005,013,ไม่ติด ที่พระองค์ชักชวนให้ดู ก็ให้ดูซึ่งลงไปต่างหาก คือให้ดูถึง 50,0005,014,คุณโทษประโยชน์มิใช่ประโยชน์แห่งเรื่องนั้น ๆ มิให้ตื่นเต้นติดไป 50,0005,015,ตาม เช่นเดียวกับดูละคร มิใช้หลงชมความสวยงามต่าง ๆ ให้เพ่งดู 50,0005,016,คติดีและชั่ว กำหนดเล่ห์เหลี่ยมของคนฉลาดและคนเขลา มิใช่เพื่อ 50,0005,017,ให้เมาไปตามสิ่งนั้น แม้พระองค์ก็ยังได้ตรัสไว้ว่า ยตฺถ พาลา 50,0005,018,วิสีทนฺติ เป็นที่ซึ่งคนพาลหมกอยู่ นตฺถิ สงฺโค วิชานตํ ผู้รู้ทัน 50,0005,019,ไม่ข้องไม่ติด. นี้ก็แสดงให้เห็นว่า คนพาลต่างหากที่หมกหลงละเลิง 50,0005,020,ไปในโลก บัณฑิตทั้งหลายหาหลงละเลิงไม่ เป็นวิธีชี้แนะอยู่ในตัว 50,0005,021,แล้วว่า โลกซึ่งตระการนั้น ถ้าผู้ใดหมกอยู่ ผู้นั้นก็เป็นพาล ถ้า