Book,Page,LineNumber,Text 49,0048,001,ติดกันไป 49,0048,002,คำว่า กาม นั้น ท่านจัดเป็น ๒ อย่าง คือ วัตถุกาม พัสดุ 49,0048,003,เป็นที่ใคร่ ๑ กิเลสกาม กิเลสเป็นเหตุให้ใคร่ ๑ บรรดาวัตถุกาม 49,0048,004,ทั้งหลายรวมเป็น ๕ จำพวก คือ รูปสวยงาม เป็นที่เจริญตา จับใจ 49,0048,005,อย่างหนึ่ง เสียงไพเราะอ่อนหวานชวนสดับ เป็นที่จับใจอย่างหนึ่ง 49,0048,006,กลิ่นที่หอมชื่น ชวนดม เป็นที่จับใจอย่างหนึ่ง รสที่อร่อยชวนให้ 49,0048,007,บริโภค เป็นที่จับใจอย่างหนึ่ง เครื่องสัมผัสกายที่นุ่มนิ่มละมุนละไม 49,0048,008,เป็นที่จับใจอย่างหนึ่ง เครื่องจับใจทั้ง ๕ นี้ จัดเป็นวัตถุกาม ฯ จิต 49,0048,009,ที่กำหนัดยินดีรักใคร่ในวัตถุกามนั้น ๆ จัดเป็นกิเลสกาม ฯ วัตถุกาม 49,0048,010,นั้น ๆ เป็นที่อร่อยของบุคคลผู้มีจิตประกอบด้วยกิเลสกาม ไม่ 49,0048,011,รู้จักอิ่มเหมือนการบริโภคอาหาร สมด้วยพุทธภาษิตใน ม.ม. ว่า 49,0048,012,กาเมหิ โลกมฺหิ น อตฺถิ ติตฺติ ความอิ่มด้วยกามทั้งหลาย 49,0048,013,ย่อมไม่มีในโลก กามนั้น ถ้าจะร่วงตกลงมาจากอากาศดังห่าฝน 49,0048,014,ก็ไม่มีอิ่มมีพอแก่บุคคลผู้ต้องการกาม ความไม่อิ่มนั้น โดยความ 49,0048,015,ก็คือตัณหา ความปรารถนาทะเยอทะยานอยากได้ ไม่มีที่สุดลงว่า 49,0048,016,เพียงไหน มีหนึ่งแล้วปรารถนาสอง สาม สี่ ห้า จนนับไม่ถ้วน ยิ่ง 49,0048,017,กว่าแม่น้ำชลาลัย มีพระพุทธภาษิตในธรรมบท ขุททกนิกาย แสดง 49,0048,018,ไว้ว่า นตฺถิ ตณฺหาสมา นที แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี ดังนี้ ฯ 49,0048,019,แท้จริง แม้น้ำอาจเต็มเปี่ยมได้ด้วยน้ำทะเลขึ้น หรือน้ำฝนตกมาก 49,0048,020,หลากไหลท่วมจนล้นตลิ่ง ส่วนตัณหาไม่เป็นเช่นนั้น พร่องอยู่เสมอ 49,0048,021,ไม่มีเวลาเต็มเลย สมด้วยธรรมเทศนาพุทธภาษิตในธัมมุทเทส ว่า