Book,Page,LineNumber,Text 49,0008,001,ภาคเบื้องบน บุคคลนั้นจึงมีความพยายามสืบต่อในสมถกัมมัฏฐาน 49,0008,002,และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ละสิ่งที่ควรละ เจริญสิ่งที่ควรเจริญ ย่อม 49,0008,003,พ้นจากทุกข์ได้โดยชอบ สรูปความว่า ผู้ใดยินดีต่อพระนิพพาน ผู้นั้น 49,0008,004,ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ ดังนัยเทศนาพุทธภาษิตข้อสุดท้ายว่า 49,0008,005,นิพฺพานาภิรโต มจฺโจ สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ 49,0008,006,แปลว่า ผู้ยินดีต่อพระนิพพาน ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดังนี้ฯ 49,0008,007,อธิบายว่า คำว่าทุกข์ในพระพุทธภาษิตนี้ หมายเอาหลายอย่าง 49,0008,008,ที่เป็นของประจำสังขาร ได้แก่ ชาติ ชรา มรณะ ฯ ที่เป็นของมีขึ้น 49,0008,009,บางครั้งบางสมัย ได้แก่ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ฯ 49,0008,010,ที่เป็นเจ้าเรือน ได้แก่ หนาว ร้อน ระหาย ปวดอุจจาระ ปวด 49,0008,011,ปัสสาวะ ฯ ที่เกิดขึ้นเพราะอวัยวะอันเป็นเจ้าการไม่ทำหน้าที่โดยปกติ 49,0008,012,ได้แก่ ทุกขเวทยาทีเกิดเพราะพยาธิ ฯ บางอย่างเกิดมีเพราะกิเลสมา 49,0008,013,เผาให้ร้อน บางอย่างเกิดมีเพราะผลแห่งกรรมชั่วในอดีตบ้าง ปัจจุบัน 49,0008,014,บ้าง บางอย่างเกิดมีเพราะวิวาททุ่มเถียงกันเป็นมูลบ้าง บางอย่างมี 49,0008,015,เพราะแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพบ้าง บางอย่างมีเพราะเป็นสภาพประจำ 49,0008,016,เบญจขันธ์บ้าง โดยความ ก็ได้แก่สภาวะที่ทนลำบากหรือทนอยู่ไม่ได้ 49,0008,017,นั่นเอง อันทุกข์เหล่านี้ทั้งหมด ย่อมไม่มีใครปรารถนาอยากประสบ 49,0008,018,เลยสักคนเดียว ถึงอย่างนั้นก็น้อยคนจะพ้นได้ ต้องจำใจจำเสวยไป 49,0008,019,ด้วยฝืนไม่ได้ แต่บางคนกลับสำคัญทุกข์เหล่านี้ทั้งหมด หรือบาง 49,0008,020,อย่างว่าเป็นสุขไปก็มี ทั้งนี้เนื่องจากไม่เห็นโทษของทุกข์โดยจริงจัง 49,0008,021,จึงยังมีความยินดีในทุกข์เหล่านั้นอยู่ ผู้นั้นจึงไม่พ้นไปจากทุกข์เหล่า