Book,Page,LineNumber,Text 48,0042,001,ปรารถนาให้ออกจากอาบัติกล่าวไม่. 48,0042,002,๒. เป็นผู้มีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีความประพฤติ 48,0042,003,ทางวาจาไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีอาชีวะไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้เขลาไม่ฉลาด 48,0042,004,เป็นผู้ทำการยุ่งยิ่งและการทะเลาะ. 48,0042,005,(ถ้าโจทก์พร้อมด้วยองค์อย่างนี้ ยกฟ้องของโจทก์เสีย และถ้า 48,0042,006,โจทนาของโจทก์ไม่มีมูล ก็ยกฟ้องเช่นเดียวกัน). 48,0042,007,ถ้าภิกษุผู้สมควรได้รับเลือกให้เป็นผู้พิจารณา คือผู้ซักความ 48,0042,008,มีลักษณะ ๔ คือ :- 48,0042,009,๑. เป็นผู้มีศีล เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงปาฏิโมกข์ เป็นผู้อาจเพื่อชี้แจง 48,0042,010,ให้คู่ความเข้าใจและให้เลื่อมใส. 48,0042,011,๒. เป็นผู้มีกายสมาจารบริสุทธิ์ วจีสมาจารบริสุทธิ์ อาชีวะบริสุทธิ์ 48,0042,012,เป็นบัณฑิตฉลาดเฉลียว อาจชี้แจงข้อที่ถูกซักถาม. 48,0042,013,๓. รู้วัตถุ รู้นิทาน รู้พระบัญญัติ รู้บทที่ตกภายหลัง รู้คลองแห่ง 48,0042,014,คำอันเข้าอนุสนธิ์กันได้. 48,0042,015,๔. รู้ธรรม รู้วินัยกับทั้งอนุโลม เป็นผู้ฉลาดในฐานะและอฐานะ คือ 48,0042,016,เหตุที่อาจเป็นไปได้และไม่อาจเป็นได้ เป็นผู้ฉลาดในอรรถและ 48,0042,017,พยัญชนะเบื้องต้นเบื้องปลาย (ที่สมกันหรือแย้งกัน) เป็นผู้ฉลาด 48,0042,018,ในวินิจฉัย. 48,0042,019,ภิกษุอันสงฆ์เลือกให้เป็นผู้พิจารณานั้น พึงมีลักษณะ 48,0042,020,ดังต่อไปนี้ :- 48,0042,021,พึงเป็นผู้หนัก (คือเคารพ) ในสงฆ์ ไม่พึงเป็นผู้หนักในบุคคล