Book,Page,LineNumber,Text 45,0039,001,ทุกครั้งก็ต้องแพ้ภัยตนเอง ถึงความย่อยยับหนักเข้าทุกที สุดท้ายพวกเดียรถีย์และ 45,0039,002,สาวกของตน ก็คิดกลขึ้นได้อย่างหนึ่ง อาศัยเหตุที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติห้าม 45,0039,003,พระสาวกไม่ให้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ โดยเข้าใจว่าพระพุทธองค์คงไม่มีการแสดง 45,0039,004,ปาฏิหาริย์ด้วยพระองค์เองตามที่ทรงห้ามนั้นด้วย จึงช่วยกันป่าวข่าวว่าพระพุทธเจ้า 45,0039,005,เหล่าพระสาวกสิ้นท่า หมดอิทธิปาฏิหาริย์ไร ๆ แล้ว จึงงดการแสดง ตรงกันข้ามกับ 45,0039,006,เหล่าคณาจารย์เดียรถีย์ซึ่งมีปาฏิหาริย์อบรมมั่นคงเต็มที่พร้อมอยู่เสมอ จะแสดงให้ 45,0039,007,ปรากฏเมื่อไรได้ทุกเมื่อ ถ้าไม่เชื่อก็เชิญพระพุทธเจ้ามาแสดงปาฏิหาริย์แข่งกันดูว่า 45,0039,008,ใครจะเก่งกาจสามารถกว่าใคร 45,0039,009,คำโฆษณาท้าทายทำนองนี้ได้แพร่หลายสะพัดไปทั่ว ผู้ไม่รู้ความจริงจนถึง 45,0039,010,แก่นของพระพุทธศาสนา ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ทั่วไปทุกหัวระแหง พระเดียรถีย์ 45,0039,011,เห็นพระพุทธองค์และพระพุทธสาวกเงียบเฉยไม่ทรงแสดงอาการอย่างไรในการโฆษณา 45,0039,012,ชวนเชื่อของตนก็ได้ใจยิ่งโฆษณาทับถมใหญ่ หาว่าพระพุทธองค์ไม่สามารถจริงแน่แล้ว 45,0039,013,จึงไม่กล้ารับคำท้าแสดงปาฏิหาริย์แข่งกัน พระพุทธองค์ทรงเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่อง 45,0039,014,สำคัญยิ่งถ้าทรงนิ่งต่อไป ผลร้ายจะเกิดแก่พระศาสนาของพระองค์แน่ จึงรับสั่งว่า 45,0039,015,พระองค์จะแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่ควงไม้มะม่วง ในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ คือเดือน ๘ 45,0039,016,ก่อนถึงวันเข้าพรรษาปีนั้น ๑ วัน พวกเดียรถีย์ไม่คาดฝันว่าพระพุทธองค์จะกลับทรง 45,0039,017,แสดงปาฏิหาริย์อีกเช่นนั้น ต่างพากันตะลีตะลานวางอุบายแกล้งจะไม่ให้พระพุทธองค์ 45,0039,018,ทรงแสดงตามที่รับสั่งได้ แล้วตนจะถือโอกาสข่มว่าพระองค์ไม่จริงตามพูดจึงแบ่งกัน 45,0039,019,เป็นพวก ๆ ออกไปเที่ยวกำจัดและทำลายต้นมะม่วงไม่ว่าต้นเล็กต้นใหญ่ให้สิ้นไปจน 45,0039,020,ทั่วแขวงพระนครสาวัตถีพวกหนึ่ง ช่วยกันสร้างมณฑปสูงใหญ่ขึ้นในวัดของพวกตน 45,0039,021,พวกหนึ่ง อีกพวกหนึ่งออกเที่ยวโฆษณาให้ประชาชนไปชมการแสดงปาฏิหาริย์ของตน 45,0039,022,ในวันเพ็ญเดือนอาสฬหะเช่นกัน และให้คอยชมความล้มเหลวของพระพุทธเจ้าใน 45,0039,023,วันนั้นด้วย 45,0039,024,ขณะที่พวกเดียรถีย์ดำเนินการดังกล่าวนี้ ฝ่ายพระพุทธองค์หาทรงตระเตรียม 45,0039,025,หรือทรงเดือดร้อนต่อคำโฆษณาแต่อย่างใดไม่ คงสงบเงียบเป็นปรกติมาจนถึงวันเพ็ญ