Book,Page,LineNumber,Text 44,0012,001,วันหนึ่งท่านได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ใต้ร่มไทร เรียกว่าพหุปุตตก 44,0012,002,นิโครธ ในระหว่างกรุงราชคฤห์และเมืองนาลันทาต่อกัน มีความเลื่อม 44,0012,003,ใสเปล่งวาจาถือเอาพระองค์เป็นพระศาสดา มอบตนเป็นสาวก พระองค์ 44,0012,004,ประทานพระโอวาทให้รับแล้ว ทรงรับให้เป็นภิกษุในพระธรรมวินัย. 44,0012,005,ท. ๒๔๖๐ 44,0012,006,ถ. การงานอันได้ทำเพื่อประโยชน์แก่พระศาสนาของท่าน มี 44,0012,007,อะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ? ท่านทำอย่างไร ? 44,0012,008,ต. มีการทำประถมสังคายนา. ท่านปรารภถึงคำสุภัททวุฆฒ- 44,0012,009,บรรพชิตพูดเมื่อพระศาสดาปรินิพพานได้ ๗ วันว่า พระองค์ปรินิพ- 44,0012,010,พานเสียดีแล้ว พวกเราพ้นจากท่าน ไม่ต้องถูกบังคับ จะทำหรือไม่ทำ 44,0012,011,อะไรก็ได้ตามปรารถนา ประสงค์ไม่ให้พวกอธรรมวาทีจูงเอาพระธรรม 44,0012,012,วินัยไปตามใจ จึงชวนพระสาวกทั้งหลายที่เป็นผู้รู้เท่ากันเป็นสันนิบาต 44,0012,013,๕๐๐ รูป ทำสังคายนาพระธรรมวินัยที่กรุงราชคฤห์ คือสอบถามถึง 44,0012,014,ธรรมวินัยที่ทรงบัญญัติไว้บ้าง ถึงพระธรรมวินัยที่ทรงแสดงไว้บ้าง 44,0012,015,ต่อสาวกผู้รู้เห็น ออกชื่อในเรื่องว่า พระอุบาลีเป็นผู้วิสัชนาพระวินัย 44,0012,016,พระอานนท์เป็นผู้วิสัชนาพระธรรม แต่น่าจะมีรูปอื่นด้วย ยกขึ้นปรึกษา 44,0012,017,ในสังฆสันนิบาต ส่วนที่ฟังได้ยกขึ้นตั้งไว้เป็นแบบแผนช่วยกันทรงจำ 44,0012,018,รักษาต่อมา. สังคายนาครั้งนี้ท่านเริ่มทำในเดือนกลางพรรษาแห่งปี 44,0012,019,ปรินิพพานนั้นเอง สำเร็จใน ๗ เดือน. 44,0012,020,ท. ๒๔๖๐