Book,Page,LineNumber,Text 43,0044,001,ต. อุปติสสปริพาชกได้ฟังธรรมของพระอัสสชิ ได้ทราบเนื้อ 43,0044,002,ความว่า ในพระพุทธศาสนาแสดงว่า ธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ 43,0044,003,และจะสงบระงับไปเพราะเหตุดับก่อน พระศาสดาทรงสั่งสอนให้ปฏิบัติ 43,0044,004,เพื่อสงบระงับเหตุแห่งธรรมเป็นเครื่องก่อให้เกิดทุกข์. และไม่ได้เลยไป 43,0044,005,เฝ้าพระศาสดา ก็เพราะได้ให้ปฏิญญาไว้แก่โกลิตปริพาชก. 43,0044,006,๒๔๖๔ 43,0044,007,ถ. พระสารีบุตรได้สำเร็จพระอรหัต เพราะได้ฟังธรรมเทศนา 43,0044,008,ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงแก่ทีฆนขะ อัคคิเวสนโคตรใช่ไหม ? 43,0044,009,ใจความแห่งพระธรรมเทศนานั้นว่ากระไร ? 43,0044,010,ต. ใช่. ใจความแห่งพระธรรมเทศนานั้น พระผู้มีพระภาคทรง 43,0044,011,แสดงถึงเรื่องสมณพราหมณ์มีทิฏฐิ ๓ จำพวก คือ พวกที่ ๑ มีทิฏฐิ 43,0044,012,ใกล้เข้าไปข้างฝ่ายความกำหนัดยินดี รักใคร่ชอบใจในสิ่งที่ควรแก่ตน. 43,0044,013,พวกที่ ๒ ใกล้เข้าไปข้างฝ่ายเกลียดชัง ไม่ชอบใจไม่พอใจในสิ่งที่ไม่ 43,0044,014,ควรแก่ตน. พวกที่ ๓ ชอบใจในบางสิ่งบางอย่างที่ควรแก่ตน ไม่ชอบ 43,0044,015,ใจในบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรแก่ตน. ผู้รู้พิจารณาเห็นว่า ถ้าเราจักถือ 43,0044,016,มั่นทิฏฐินั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง กล่าวว่าสิ่งนี้แหละจริง สิ่งอื่นเปล่าหาจริง 43,0044,017,ไม่ ก็จะต้องถือผิดจากคน ๒ พวกที่มีทิฏฐิไม่เหมือนกับตน ครั้นความ 43,0044,018,ถือผิดกันมีขึ้น ความวิวาทเถียงกันก็มีขึ้น เมื่อความวิวาทมีขึ้น ความ 43,0044,019,พิฆาตก็มีขึ้น เมื่อความพิฆาตมีขึ้น ความเบียดเบียนก็มีขึ้น ผู้รู้เห็น 43,0044,020,อย่างนั้นแล้ว ย่อมละทิฏฐินั้นเสียด้วย ไม่ทำทิฏฐิอื่นให้เกิดขึ้นด้วย.