Book,Page,LineNumber,Text 43,0033,001,ต. พระอุรุเวลกัสสปะ เกิดในสกุลพราหมณ์ กัสสปโคตร มี 43,0033,002,"ภูมิลำเนาอยู่ที่ไหนไม่ปรากฏ, มีน้องชาย ๒ คน ชื่อนทีกัสสปะคนหนึ่ง" 43,0033,003,คยากัสสปะคนหนึ่ง ทั้ง ๓ คนนี้ เห็นผลแห่งการเรียนที่ได้ในปัจจุบัน 43,0033,004,ว่าไม่เป็นสาระ จึงมุ่งผลในภายหน้าต่อไป ได้ออกบวชเป็นชฎิลพร้อม 43,0033,005,ด้วยบริวาร ไปสร้างอาศรมอยู่ที่ตำบลอุรุเวลา บำเพ็ญตบะอยู่ด้วยวิธี 43,0033,006,บูชาเพลิง ต่อมาพระศาสดาพิจารณาเห็นอุปนิสัยของชนชาวมคธ ทั้ง 43,0033,007,หวังว่าจะไปประดิษฐานพระพุทธศาสนาในแคว้นมคธ เพราะบริบูรณ์ 43,0033,008,ด้วยคณาจารย์และอาหาร จึงเสด็จไปในที่นั้น ได้ไปทรมานเหล่าชฎิล 43,0033,009,ให้ทิ้งลัทธิของตนได้แล้ว จึงทรงเทศนาอาทิตตปริยายสูตร เมื่อจบลง 43,0033,010,อุรุเวลกัสสปะกับบริวาร ก็ได้สำเร็จพระอรหัต. 43,0033,011,ส. ป. 43,0033,012,ถ. พระอุรุเวลกัสสปะ ทราบว่าก่อนเป็นคณะศาสดาใหญ่ใน 43,0033,013,มคธรัฐ สมบูรณ์ด้วยวัยสมบัติ บริวารสมบัติ เป็นที่นับถือของมหาชน 43,0033,014,มานาน ทั้งทิฏฐิมานะก็แรงกล้า พระบรมศาสดาทรงทำพิธีอย่างไร 43,0033,015,ท่านจึงยอมเป็นสาวก ? จงเล่าตั้งแต่แรกเสด็จไปถึงจนได้อุปสมบท. 43,0033,016,ต. พระองค์เสด็จไปถึงถิ่นของท่านแล้ว ตรัสขอสำนักอาศัย 43,0033,017,ท่านมิเต็มใจรับ แต่ไม่กล้าขัดโดยตรง จึงบอกบ่ายเบี่ยงว่า ที่อันจะพึง 43,0033,018,ให้อยู่ มีแต่โรงที่บูชาเพลิง ที่มีนาคร้าย อธิบายว่า เป็นที่ประดิษฐาน 43,0033,019,เทวรูปมีนาคเป็นบัลลังก์ เช่นพระนาคปรก อันพวกชฎิลถือว่าศักดิ์สิทธิ์ 43,0033,020,ผู้ใดกล้ำกรายอาจทำอันตรายแก่ผู้นั้น พระองค์ตรัสขอเสด็จเข้าอาศัย 43,0033,021,ในที่นั้น ครั้นไม่มีอันตราย ท่านสำคัญเป็นอภินิหาร นี้เป็นทานปลูก