Book,Page,LineNumber,Text 41,0028,001,ด้วยอาการคือความตริเป็นไปเพื่อทำใจไม่ให้ลุอำนาจแก่กิเลสกาม และ 41,0028,002,ไม่ติดอยู่ในวัตถุกาม ซึ่งท่านเรียกว่าเนกขัมมวิตก. เมื่อพยาบาท- 41,0028,003,วิตกเกิดขึ้น ต้องปราบด้วยอาการคือความตริเป็นไปด้วยอำนาจเมตตา 41,0028,004,ในผู้อื่น ปรารถนาความดีความงามเพื่อเขา ซึ่งท่านเรียกว่าอพยาบาท- 41,0028,005,วิตก. เมื่อวิหิงสาวิตกเกิดขึ้น ต้องปราบด้วยอาการคือตริเป็นไปด้วย 41,0028,006,อำนาจกรุณา ซึ่งท่านเรียกว่าอวิหิงสาวิตก. 41,0028,007,๑๐/๙/๖๖ 41,0028,008,ถ. วิหิงสาวิตกแผกจากพยาบาทวิตกอย่างไร ? 41,0028,009,ต. วิหิงสาวิตก มีโมหะเป็นมูล ไม่ได้มุ่งร้ายให้แก่เขา แต่คิด 41,0028,010,แส่ไปในทางที่จะยังเขาให้ได้ความลำบาก เช่นตริในการเล่น เช่นขนไก่ 41,0028,011,หรือกัดปลา มุ่งแต่สนุก ไม่คำนึงถึงความทุกข์ของมัน. พยาบาทวิตก 41,0028,012,มีโทสะเป็นมูล มุ่งร้ายให้แก่เขา วิหิงสาวิตกแผกจากพยาบาทวิตก 41,0028,013,อย่างนี้. 41,0028,014,๗/๑๑/๖๐ 41,0028,015,ถ. เมตตา กับปรานี มีความหมายต่างกัน หรือเหมือนกัน 41,0028,016,อย่างไร ? และอย่างไหนเป็นเหตุกำจัดบาปธรรมอะไร ? 41,0028,017,ต. เมตตา หมายถึงความรักใคร่ หรือความหวังดี. ปรานี 41,0028,018,หมายถึงความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ เข้าลักษณะแห่งกรุณา 41,0028,019,"เมตตา กำจัดพยาบาทวิตก, ปรานี กำจัดวิหิงสาวิตก." 41,0028,020,๒๕๑๘ 41,0028,021,ถ. อกุศลวิตก ๓. มีอะไรเป็นมูล ? อย่างไหนมีโทษอย่างไร ?