Book,Page,LineNumber,Text 41,0011,001,จะพ้นจากวัตถุกาม วัตถุกามนี้สงเคราะห์เข้าในรูปขันธ์ 41,0011,002,๒๔๗๔-๗๗ 41,0011,003,"ถ. คำว่า "" กาม "" เป็นชื่อของอะไรบ้าง ? เรียกชื่อต่างกัน" 41,0011,004,อย่างไร ? 41,0011,005,ต. เป็นชื่อของกิเลสบ้าง ของอกุศลวิตกบ้าง ของอาสวะ 41,0011,006,บ้าง ของตัณหาบ้าง ของภพบ้าง ของอุปาทานบ้าง ของโอฆะบ้าง 41,0011,007,ของภูมิบ้าง ของอนุปุพพีกถาบ้าง ของอนุสัยบ้าง. เรียกชื่อต่างกัน 41,0011,008,"คือ ที่เป็นชื่อของกิเลส เรียกว่ากิเลสกาม, ที่เป็นชื่อของอกุศลวิตก" 41,0011,009,"เรียกว่ากามวิตก, ที่เป็นชื่อของอาสวะ เรียกว่ากามาสวะ, ที่เป็น" 41,0011,010,"ชื่อของตัณหา เรียกว่ากามตัณหา, ที่เป็นชื่อของภพ เรียกว่ากามภพ," 41,0011,011,"ที่เป็นชื่อของอุปาทาน เรียกว่ากามุปาทาน, ที่เป็นชื่อของภูมิ เรียก" 41,0011,012,"ว่ากามาวจรภูมิ, ที่เป็นชื่ออนุปุพพีกถา เรียกว่ากามาทีนวกถา, ที่" 41,0011,013,เป็นชื่อของอนุสัย เรียกว่ากามราคานุสัย. 41,0011,014,๒๕๑๙ 41,0011,015,ถ. สัสสตทิฏฐิ และอุจเฉททิฏฐิ ต่างกันอย่างไร ? แผกจากมติ 41,0011,016,ข้างพระพุทธศาสนาอย่างไร ? 41,0011,017,ต. ทิฏฐิ ๒ อย่างนั้น ต่างกันอย่างนี้ สัสสตทิฏฐิ เห็นว่าใน 41,0011,018,โลกนี้ไม่มีอะไรสูญ แม้คนและสัตว์ตายแล้ว ร่างกายเท่านั้นทรุดโทรม 41,0011,019,ไป ส่วนมนัสที่เรียกว่าอัตตาเป็นธรรมชาติไม่สูญ ย่อมถือปฏิสนธิ 41,0011,020,ในกำเนิดอื่นสืบไป. อุจเฉททิฏฐิ ปฏิเสธความเห็นอย่างนั้น ถือว่า 41,0011,021,คนและสัตว์จุติจากอัตภาพนั้นแล้วเป็นอันขาดสูญ. แผกจากมติข้างพระ