Book,Page,LineNumber,Text 38,0039,001,การคารวะที่ท่านจัดไว้โดยประการอื่นอีก คือ 38,0039,002,"๑. ให้ผู้อ่อนเรียกผู้แก่ว่า ""ภนฺเต"" ผู้แก่เรียกผู้อ่อนว่า ""อาวุโส.""" 38,0039,003,อนึ่ง ผู้อ่อนแม้คนเดียว เมื่อพูดกับผู้แก่ มักนิยมใช้พหุวจนะ 38,0039,004,ส่วนผู้แก่พูดกับผู้อ่อน ใช้เอกวจนะตามปกติ. 38,0039,005,๒. ผู้น้อยเมื่อจะแสดงธรรม ต้องอาปุจฉาให้ได้รับอนุญาตจากผู้ 38,0039,006,ใหญ่ก่อน. 38,0039,007,๓. อยู่ในกุฎีเดียวกับภิกษุผู้แก่กว่า จะสอนธรรม จะอธิบายความ 38,0039,008,จะสาธยาม จะแสดงธรรม จะจุดจะดับไป จะเปิดจะปิดหน้าต่าง 38,0039,009,ต้องบอกขออนุญาตท่านก่อน. 38,0039,010,๔. อุปัชฌายะ อาจารย์ อุปัชฌายมัต อาจริยมัต เดินไม่ได้ 38,0039,011,สวมรองเท้า ห้ามไม่ให้เดินสวมรองเท้า. 38,0039,012,๕. จะเข้าไปในเจดียสถาน ไม่กั้นร่ม ไม่สวมรองเท้า ไ่ม่ห่มคลุม 38,0039,013,เข้าไป ไม่แสดงอาการดูหมิ่นต่าง ๆ เช่นพูดเสียงดังและนั่งเหยียด 38,0039,014,เท้าเป็นต้น ไม่ถ่ายอุจจาระปัสสาวะและไม่ถ่มเขฬะในลานพระ 38,0039,015,เจดีย์ หรือต่อหน้าพระปฏิมา [นี้นับว่าเคารพในพระศาสดา]. 38,0039,016,๖. จะทำวินัยกรรมต่อกัน ห่มผ้าเฉวียงบ่า นั่งกระหย่ง ประณมมือทำ 38,0039,017,เมื่อฟังวินัยกถาหรือธรรมเทศนา นิ่งฟังไม่พูดจากัน และระวัง 38,0039,018,เพื่อจะไม่ไอกลบเสียงผู้แสดง ไม่มีเหตุจำเป็นไม่ลุกไปเสียในเวลา 38,0039,019,ที่ท่านกำลังแสดงค้างอยู่. อักษรจารึกพระธรรม ไม่เดินข้ามหรือ 38,0039,020,ย่ำเหยียบ [นี้นับว่าเคารพในพระธรรม].