Book,Page,LineNumber,Text 26,0032,001,อาบัติสังฆาทิเสสนั้น เมื่อจะกล่าวเป็นข้อ ๆ แล้ว มีอยู่ ๑๓ ข้อ 26,0032,002,แต่เมื่อจะกล่าวโดยใจความให้สั้นเข้าแล้ว มีอยู่ ๒ แผลง. 26,0032,003,แผนกที่ ๑ ตั้งแต่สิกขาบทที่ ๑ ถึงสิกขาบทที่ ๙ ภิกษุประพฤติ 26,0032,004,ล่วงเข้าแล้ว ต้องอาบัติสังฆาทิเสสในทันที เรียกว่าปฐมาปัตติกา 26,0032,005,แปลว่า ต้องอาบัติสังฆาทิเสสในเวลาประพฤติล่วงคราวแรก. 26,0032,006,แผนกที่ ๒ ตั้งแต่สิกขาบทที่ ๑๐ ถึงสิกขาบทที่ ๑๓ เมื่อภิกษุ 26,0032,007,ประพฤติล่วงเข้าแล้ว ยังไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสก่อน ต่อเมื่อสงฆ์ 26,0032,008,สวดประกาศสมนุภาสนะหนที่ ๓ แล้วจึงต้อง เรียกว่า ยาวตติยกา 26,0032,009,แปลว่า ต้องอาบัติสังฆาทิเสสในขณะสงฆ์สวดกรรม จบ ๓ ครั้ง. 26,0032,010,ปฐมาปัตติกา 26,0032,011,สิกขาบทที่ ๑ กิริยาที่ทำให้น้ำอสุจิเคลื่อนจากฐานแม้ชั่วแมลง 26,0032,012,วันกินอิ่ม ด้วยความเต็มใจ คือพร้อมทั้งความกำหนัดเจตนาและ 26,0032,013,พยายาม เป็นสังฆาทิเสส. เหตุที่ห้ามในข้อนี้ เพราะเป็นเหตุแห่ง 26,0032,014,ความกำหนัดทอนกำลังและทำสัตว์ในน้ำอสุจิให้ตาย ทั้งเป็นการซุกซน 26,0032,015,สัปดนอันภิกษุไม่ควรกระทำ. 26,0032,016,สิกขาบทที่ ๒ มีความกำหนัดจับต้องกายหญิง กำหนดหญิงที่ 26,0032,017,ห้ามไม่ให้จับ แม้เกิดในวันนั้นตั้งแต่เล็กจนแก่ ถ้าจับต้องด้วยจิต 26,0032,018,กำหนัด ปรับเป็นสังฆาทิเสส ถ้าข้างหนึ่งเป็นกาย ข้างหนึ่งเป็นของ 26,0032,019,เนื่องด้วยกาย ปรับเป็นถุลลัจจัย. ถ้าเป็นของเนื่องด้วยกายทั้งสองฝ่าย