Book,Page,LineNumber,Text 26,0023,001,ของในวัดซึ่งเป็นของกลาง ภิกษุลักเอาไป ถ้าราคาไม่ถึง ๕ 26,0023,002,มาสก ไม่เป็นปาราชิก ถ้าราคาตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป เป็นปาราชิก 26,0023,003,ของเล็ก ๆ น้อย ๆ หลาย ๆ คราว รวมกันเข้าแม้อย่างน้อยเพียง 26,0023,004,๕ มาสก ภิกษุลักด้วยเถยยจิตอันยังติดต่อกันไปไม่มีจิตวิรัติในระหว่าง 26,0023,005,ปรับเป็นปาราชิก แต่ถ้าลักครั้งหนึ่ง แล้วตั้งใจสังวรเสีย ไม่ปรับ 26,0023,006,เป็นปาราชิก ปรับเป็นทุกกฎหรือถุลลัจจัยตามราคาของ. 26,0023,007,สิกขาบทที่ ๓ ฆ่ามนุษย์ 26,0023,008,ในอาบัติปาราชิกข้อ ๓ กล่าวตามตัวบาลี ภิกษุแกล้งพราก 26,0023,009,ชีวิตมนุษย์ด้วยตนเองหรือใช้ผู้อื่น หรือทำเครื่องศัสตราวุธให้เขาด้วย 26,0023,010,เจตนาจะให้ทำลายชีวิต แล้วเขาฆ่าตัวตายเอง หรือบังคับให้เขา 26,0023,011,กินยาพิษ หรือกล่าวพรรณนาคุณของความตายเพื่อให้เขาตาย ที่สุด 26,0023,012,แม้แต่เขาถาม แล้วแนะนำด้วยอุบายต่าง ๆ เช่นให้เขาเอาเชือก 26,0023,013,ผูกคอ เรียกว่าชักชวนเพื่อการตาย ดังนี้ ต้องอาบัติปาราชิก. 26,0023,014,ชีวิต กำหนดตั้งแต่แรกตั้งวิญญาณ คือตั้งแต่ปฏิสนธิใน 26,0023,015,ครรภ์มารดาจนถึงตาย ชีวิตมนุษย์มีอาการสืบต่อ ๆ กัน แม้แต่ 26,0023,016,ความคิดก็สืบเนื่องไปตามลำดับ ขณะชีวิตยังสืบเนื่องกันเช่นว่าเครื่อง 26,0023,017,ภายในกำลังทำการอยู่ เช่นปอดกำลังสูบลมหรือหัวใจกำลังฉีดโลหิต 26,0023,018,กระเพาะกำลังย่อยอาหาร ดังนี้ นับว่ายังมีชีวิตอยู่ ถ้าภิกษุพรากหรือ 26,0023,019,ทำให้หยุดประการใดประการหนึ่งดังว่ามาแล้ว แปลว่าพรากชีวิตความ 26,0023,020,เป็นอยู่จากร่างกายมนุษย์ คือตัดความสืบสนธิของอวัยวะเสีย ไม่ให้