Book,Page,LineNumber,Text 26,0010,001,มูลบัญญัติ ที่ได้ทรงแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นภายหลัง โดยอนุโลมตามบัญญัติเดิม 26,0010,002,เรียกว่า อนุบัญญัติ. 26,0010,003,อาบัติ 26,0010,004,๑. อาบัติ แปลว่าความต้อง หรืออาการที่ล่วงละเมิดข้อบัญญัติ 26,0010,005,ที่พระพุทธเจ้าห้าม หรือแปลว่า ธรรมชาติอันภิกษุพึงต้องพึงถึง ด้วย 26,0010,006,ประพฤติอนาจารเป็นการนอกบัญญัติ. 26,0010,007,๒. อาบัตินั้น ว่าโดยชื่อมี ๗ คือ :- 26,0010,008,ปาราชิก ๑ สังฆาทิเสส ๑ ถุลลัจจัย ๑ ปาจิตตีย์ ๑ ปาฏิเทสนียะ ๑ 26,0010,009,ทุกกฏ ๑ ทุพภาสิต ๑. 26,0010,010,ก. ปาราชิก แปลว่า ผู้แพ้ [ เล็งบุคคล ] หรืออาบัติยังบุคคล 26,0010,011,ให้แพ้ [ เล็งอาบัติ ] อาบัตินี้ ภิกษุต้องเข้าแล้ว ชื่อว่าเป็นคนแพ้ 26,0010,012,เป็นคนตายจากพุทธศาสนา. 26,0010,013,ข. สังฆาทิเสส แปลว่า กองอาบัติมีสงฆ์อันภิกษุพึงปรารถนา 26,0010,014,ในกาลเบื้องต้นและกาลอันเศษ คือ เมื่อภิกษุต้องเข้าแล้ว ต้องอาศัย 26,0010,015,สงฆ์ คือ ขอให้สงฆ์ให้ปริวาสเป็นกาลเบื้องต้น [ มูลายปฏิกัสสนา ] 26,0010,016,และให้มานัตเป็นท่ามกลาง และอัพภานกรรม เป็นกรรมอันสุด. 26,0010,017,ค. ถุลลัจจัย แปลว่า โทษหยาบ เมื่อภิกษุต้อง 26,0010,018,เข้าแล้ว แสดงแก่ภิกษุแม้องค์เดียวก็หลุดพ้นได้. 26,0010,019,ฆ. ปาจิตตีย์ แปลว่า อาบัติยังกุศลธรรมให้ตกไป มี ๒ 26,0010,020,นิคสัคคิยปาจิตตีย์ ๑ สุทธิกปาจิตตีย์ ๑. นิสสัคคิยปาจิตตีย์นั้น ภิกษุ 26,0010,021,ต้องเข้าแล้ว ต้องเสียสละวัตถุที่เป็นนิสสัคคีย์นั้นเสียก่อน จึงแสดง