Book,Page,LineNumber,Text 23,0031,001,ฝ่ายหมดทิฏฐิมานะลง ก็ระงับเวรอยู่เป็นสุข. ผู้ชำนะจะได้ความ 23,0031,002,โสมนัสปราโมทย์ไม่มีกี่มากน้อย ถ้าเป็นการใหญ่ ภายหลังไม่วาย 23,0031,003,ได้รับความแก้เผ็ดจากผู้แพ้. ผู้แพ้ ถ้าเป็นการใหญ่ก็ไม่แต่ระทม 23,0031,004,ทุกข์อยู่ หาช่องที่จะตอบเวร ถ้าได้ช่องก็ไม่รีรอ รีบแก้เผ็ดผู้ชำนะ 23,0031,005,จนได้. ผู้ชำนะมาก่อนพลาดแต้มก็กลับเป็นผู้แพ้ ผู้แพ้มาก่อนแข็งมือ 23,0031,006,ก็กลับเป็นผู้ชำนะ ถ้าไม่เลิกแล้วต่อกันเสียตราบใด ก็ก่อเวรได้ 23,0031,007,ทุกข์ผลัดเปลี่ยนอยู่ดังนี้ตราบนั้น. ผู้ชำนะย่อมก่อเวร มีอธิบาย 23,0031,008,ดังพรรณนามานี้. 23,0031,009,๕๘. สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ. [ ๑๓๑ ] 23,0031,010,การให้ธรรม ย่อมชำนะการให้ทั้งปวง. 23,0031,011,ให้ธรรมได้แก่แสดงธรรมสั่งสอนเขา การแสดงธรรมสั่งสอนเขา 23,0031,012,นั้น ตนต้องเป็นผู้ศึกษาจำทรงชำนิชำนาญก่อน เมื่อว่าโดยอุกฤษฏ์ 23,0031,013,ต้องปฏิบัติได้ด้วยประการทั้งปวงแล้ว จึงสมควรสอนผู้อื่นได้ เมื่อว่า 23,0031,014,โดยพอประมาณ รู้เพียงใด ปฏิบัติได้เพียงใด สอนเขาเพียงนั้นก็ชอบ 23,0031,015,เช่นพระโสดาบันผู้พระอริยเจ้าชั้นต่ำ ท่านก็สอนผู้ที่ทรงคุณธรรมต่ำ 23,0031,016,กว่าท่านได้ การให้ทั้งปวง ได้แก่ให้อามิสทั้งปวง. คำว่าชำนะนั้น 23,0031,017,ประสงคืความว่าประเสริฐกว่า. จริงอยู่ ให้ธรรมทานประเสริฐ 23,0031,018,กว่าให้อามิสทาน ให้อามิสทานสู้ธรรมทานไม่ได้ บุคคลจะรู้จักให้ 23,0031,019,อามิสทาน ว่าอย่างนี้มีผลน้อย อย่างนี้มีผลมาก หรืออย่างนี้มี 23,0031,020,ประโยชน์น้อย อย่างนี้มีประโยชน์มาก ก็เพราะรู้จักให้ธรรมทาน. อนึ่ง