Book,Page,LineNumber,Text 20,0049,001,เป็นปุพโพบ้าง เป็นโลหิตบ้าง ล้วนเป็นของปฏิกูลทุกอย่าง หนึ่ง 20,0049,002,กายนี้เลี้ยงตัวอยู่ได้ด้วยเสพอาหาร และอาหารนั้น ก็เป็นของปฏิกูล 20,0049,003,ตามกำเนิดแล้ว เมื่อนำเข้าถึงทวารปาก ชุ่มด้วยเขฬะ ฟันบดให้ 20,0049,004,แหลกลง เมื่อตกลงถึงกระเพาะ ย่อมระคนด้วยน้ำกรดในกระเพาะ 20,0049,005,เลื่อนลงไปถึงลำไส้ ย่อมระคนด้วยน้ำดีและน้ำในลำไส้อย่างอื่น ๆ อีก 20,0049,006,พึงเห็นตัวอย่างในอาหารที่อาเจียนกลับออกมาเถิดเป็นของปฏิกูลเช่นไร 20,0049,007,เส้นโลหิตดูดรสอาหารเช่นนี้เข้าไปเป็นเครื่องเลี้ยงกาย ของที่เกิดใน 20,0049,008,กายและหลั่งไหลจากกาย จึงเป็นของปฏิกูลไปตามกัน อีกประการหนึ่ง 20,0049,009,เมื่อชีวิตดับแล้ว ธาตุทั้ง ๔ สลายจากกัน กายนี้ย่อมเปื่อยน่า เสีย 20,0049,010,ทรวดทรง มีสัณฐานทรุดโทรมไป มีกลิ่นเหม็นปฏิกูลยิ่งนัก ด้วยเหตุ 20,0049,011,ทั้งหลายดังพรรณนามานี้ รูปกายนี้ได้ชื่อว่าเป็นของไม่งาม. 20,0049,012,เมื่อรูปกายเป็นอยู่เช่นนี้ บุคคลผู้ไม่ได้สดับธรรมของสัตบุรุษ 20,0049,013,สำคัญเห็นเป็นงาม หลงเพลิดเพลินทั้งในกายตัวหรือในกายผู้อื่นด้วย 20,0049,014,กิเลสกาม ดังนี้ ได้ชื่อว่าพิปลาสในของที่ไม่งามว่างาม ความข้อนี้ 20,0049,015,พึงสาธกด้วยนิทานนางรูปนันทาเถรี ในอรรถกถาแห่งพระธรรมบท 20,0049,016,ตอนชราวรรค มีความสังเขปว่า นางรูปนันทานั้นเป็นพระกนิฏฐภคินี 20,0049,017,ของสมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ แต่ต่างพระมารดา นางเป็นพระบุตรี 20,0049,018,ของพระนามมหาปชาบดีโคตมี นางเห็นพระมารดาและพระประยูรญาติ 20,0049,019,พากันบวช นางก็พลอยบวชเป็นภิกษุบ้าง หาได้บวชด้วยศรัทธาไม่ 20,0049,020,นางเป็นหญิงมีรูปร่างงามและมัวเมาในรูปตน ตั้งแต่บวชแล้ว มิได้ 20,0049,021,ไปสู่ที่เฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ด้วยกลัวว่า พระองค์จะตรัส