Book,Page,LineNumber,Text 20,0027,001,เกิดแห่งทุกข์ ไม่รู้จักธรรมที่ดับทุกข์ด้วยประการทั้งปวงไม่มีเหลือ 20,0027,002,และไม่รู้จักทางที่ดำเนินถึงความระงับทุกข์ ชนจำพวกนั้น เสื่อมจาก 20,0027,003,สมาธิและปัญญา อันทำใจให้พ้นจากกิเลสบาปธรรม ซึ่งเรียกว่า 20,0027,004,เจโตวิมุตติและปัญญาวิมุตติ เป็นผู้อาภัพ คือไม่อาจเพื่อทำที่สุดทุกข์ 20,0027,005,ได้ ชื่อว่าเข้าถึงชาติชราแท้. พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจด้วยลำพัง 20,0027,006,พระปัญญาของพระองค์เองแล้ว ทรงแสดงแก่เวไนยสัตว์ให้ได้ปัญญา 20,0027,007,รู้แจ้งอริยสัจทั้ง ๔ ประการ คือ ได้ญาณหยั่งรู้ว่า นี้ทุกข์ นี้สมุทัย 20,0027,008,คือเหตุให้เกิดทุกข์ นี้นิโรธคือธรรมที่ดับทุกข์ นี้ข้อปฏิบัติดำเนินถึง 20,0027,009,ธรรมที่ดับทุกข์ พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้เวไนยสัตว์ได้ปัญญาเห็น 20,0027,010,ธรรมนั้น ได้ชื่อว่าทรงส่องดวงไฟในที่มืดให้คนมีจักษุได้เห็นแสง สม 20,0027,011,ด้วยพระบาลีในธัมมจักกัปปวัตนสูตรว่า อิมสฺมิญฺจ ปน เวยฺยา- 20,0027,012,กรณสฺมึ ภญฺมาเน อายสฺมโต โกณฺฑญฺสฺส วิรชํ วีตมลํ 20,0027,013,ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ยงฺกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธ- 20,0027,014,ธมฺมนฺติ ความว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทศนาพระสูรนี้ ที่ 20,0027,015,เป็นคำไวยากรณ์ล้วน คือคำร้อยแก้วไม่ระคนด้วยคาถา ธรรมจักษุ 20,0027,016,คือดวงตาเห็นธรรมซึ่งปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ได้เกิดขึ้นแก่ 20,0027,017,พระโกณฑัญญะผู้มีอายุว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่ง 20,0027,018,นั้นล้วนมีความดับเป็นธรรมดา ดังนี้. 20,0027,019,คำสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า ผู้สอนสัตวโลกให้รู้จริง 20,0027,020,เห็นจริงด้วยอุปมา ๔ ข้อ มีอรรถาธิบายพอเป็นนิทัสสนนัยฉะนี้. 20,0027,021,ความสำคัญผิดด้วยพิปลาส ไม่เป็นแต่ปราศจากผลข้างดี ซ้ำ