Book,Page,LineNumber,Text 20,0007,001,เมื่อเห็นนามรูปตามเป็นจริงอย่างไรได้ฉะนี้แล้ว ทิฏฐิความเห็น 20,0007,002,ของผู้บำเพ็ญเพียรนั้นก็บริสุทธิ์ ควรเจริญวิปัสสนาปัญญาต่อไป แสวง 20,0007,003,หาเหตุและปัจจัยแห่งนามรูปนั้น ประหนึ่งแพทย์เห็นโรคแล้วแสวงหา 20,0007,004,สมุฏฐานแห่งโรคฉะนั้น ดำเนินญาณอันโคจรมาเพราะสดับเป็นต้น 20,0007,005,ก็จะเห็นธรรม ๔ ประการ คือ อวิชชา ๑ ตัณหา ๑ อุปาทาน ๑ 20,0007,006,กรรม ๑ นี้ว่า เป็นเหตุแห่งรูป เพราะเป็นปัจจัยแก่ความเกิดขึ้น 20,0007,007,แห่งรูป เห็นอาหารว่าเป็นปัจจัยแห่งรูป เพราะเป็นปัจจัยแก่ความ 20,0007,008,อุปถัมภ์ทำนุบำรุงรูปนั้น ธรรมทั้ง ๓ คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน 20,0007,009,เป็นอุปนิสัยแห่งกายนี้ ประหนึ่งมารดาที่อาศัยแห่งทารกฉะนั้น กรรม 20,0007,010,เป็นผู้ให้กายนี้เกิด ประหนึ่งบิดาแห่งบุตรฉะนั้น อาหารเป็นผู้อุ้ม 20,0007,011,ธารทางกายนี้ไว้ ประหนึ่งพี่เลี้ยงอันอุ้มทรงทารกฉะนั้น กำหนด 20,0007,012,ปัจจัยแห่งรูปกายได้อย่างนี้แล้ว กำหนดปัจจัยแห่งนามกายโดยนัยว่า 20,0007,013,อาศัยจักษุกับรูปทั้งหลายมาประสบเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ดังนี้เป็นต้น 20,0007,014,ถึงความสันนิษฐานว่า นามรูปอาศัยเหตุและปัจจัยอย่างนี้ ถึงธรรม 20,0007,015,ทั้งหลายที่เป็นอดีตอนาคตเล่า ก็ย่อมเป็นไปเพราะปัจจัยอย่างนี้แล. 20,0007,016,ครั้นมาพิจารณาเห็นอยู่อย่างนี้ ก็ละความสงสัยใน ๓ กาล คือ 20,0007,017,อดีต อนาคต ปัจจุบัน เสียได้ และพิจารณาสังขารเหล่านั้น ยกขึ้น 20,0007,018,ยังลักษณะทั้ง ๓ พิจารณารูปขันธ์ก่อนว่า รูปที่เป็นอดีต รูปที่เป็น 20,0007,019,อนาคต และรูปที่เป็นปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือ 20,0007,020,ละเอียด ต่ำช้าหรือประณีต ไกลหรือใกล้ รูปทั้งปวงนั้นไม่เที่ยง โดย