Book,Page,LineNumber,Text 19,0049,001,สัณฐานสะเอวเป็นต้น. กำหนดโดยทิศนั้น คือให้กำหนดว่า ในซาก 19,0049,002,อสุภนี้มีทิศ ๒ ทิศ คือทิศเบื้องต่ำ ทิศเบื้องบน ท่อนกายตั้งแต่นาภี 19,0049,003,ลงมาเป็นทิศเบื้องต่ำ ตั้งแต่นาภีขึ้นไปเป็นทิศเบื้องบน. ซึ่งให้กำหนด 19,0049,004,อสุภนิมิตโดยที่ตั้งนั้น คือให้กำหนดว่า มีอยู่ข้างนี้ เท้าอยู่ข้างนี้ 19,0049,005,ศีรษะอยู่ข้างนี้ ท่อนกลางกายอยู่ที่นี้. กำหนดโดยปริจเฉทนั้น คือให้ 19,0049,006,กำหนดว่า ซากอสุภนี้มีกำหนดในเบื้องต่ำด้วยพื้นเท้า มีกำหนดในเบื้อง 19,0049,007,บนด้วยปลายผม มีกำหนดในเบื้องขวางด้วยหนัง เต็มไปด้วยเครื่อง 19,0049,008,เน่า ๓๑ ส่วน. โยคาพจร พิจารณาที่เท่าใดว่าเป็นอุทธุมาตกอสุภนิมิต 19,0049,009,โดยอาการ ๖ อย่างนั้น แต่ร่างกายที่เป็นสภาคกัน คือชายสิ่งเดียว. 19,0049,010,เมื่อพิจารณาอุทธุมาตกอสุภนั้น จะนั่งจะยืนก็ได้ไม่กำหนด แต่ 19,0049,011,ว่าอย่าอยู่ให้ใกล้นัก อยู่แต่พอประมาณ แล้วให้พิจารณาเห็นอานิสงส์ 19,0049,012,ในอสุภกัมมัฏฐานนั้น สำคัญว่าเป็นดังดวงแก้ว ตั้งไว้ซึ่งความเคารพ 19,0049,013,รักใคร่ยิ่งนัก ผู้จิตไว้ในอารมณ์คืออสุภนั้นให้มั่นด้วยคิดว่า อาตมะ 19,0049,014,จะพ้นจากชาติชรามรณทุกข์ด้วยวิธีปฏิบัตินี้ แล้วพึงลืมจักษุขึ้นแลดู 19,0049,015,อสุภถือเอเป็นนิมิต แล้วจึงเจริญบริกรมภาวนาไปว่า อุทฺธุมาตกํ 19,0049,016,ปฏิกูลํ ซากศพพองขึ้น เป็นของน่าเกลียด ดังนี้ร่ำไปร้อยครั้งพ้นครั้ง 19,0049,017,ลืมจักษุขึ้นแลดูแล้วพึงหลับจักษุลงพิจารณาเล่า เมื่อโยคาพจรปฏิบัติ 19,0049,018,อยู่ดังนี้ ถ้าอสุภนิมิตปรากฏในวิถีจิตของโยคาพจร เหมือนเมื่อแลดู 19,0049,019,ด้วยจักษุ เมื่อหลับจักษุลงก็เห็นอสุภนิมิตปรากฏนั้น เหมือนเมื่อลืม 19,0049,020,จักษุในกาลใด ชื่อว่าได้สำเร็จอุคคหนิมิตในกาลนั้น ครั้นได้อุคคห- 19,0049,021,นิมิตแล้ว ถ้าไม่ละความเพียรเสีย พยายามต่อไป ก็จะได้อุคคหนิมิต