Book,Page,LineNumber,Text
19,0015,001,"ว่า ""อรหํ"" นี้เป็นนามเรียกได้ทั้งพระศาสดาทั้งพระสาวก แต่มีบท "
19,0015,002,"อื่นต่อท้ายให้แปลกกัน พระนามพระศาสดาว่า ""อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ"""
19,0015,003,"แปลไว้แล้วข้างต้น นามสาวกว่า ""อรหํ ขีณาสโว"" แปลว่า พระ"
19,0015,004,อรหันต์สิ้นอาสวะ พระคุณเหล่านี้จัดเป็นอัตตสมบัติ คือความดี
19,0015,005,ส่วนพระองค์.
19,0015,006,พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระคุณที่เป็นอัตตสมบัติเช่นนั้นแล้วจัด
19,0015,007,ว่ามีภัคยะ คือ สมบัติอันชักจูงคนอื่นเข้ามาคบหา. ผู้ใดเข้ามาคบ
19,0015,008,พระองค์ย่อมทรงสั่งสอนผู้นั้น แจกอรรถแจกธรรมให้เข้าใจชัด.
19,0015,009,"บัณฑิตหมายเอาพระคุณสมบัตินี้ ขนานพระนามไว้ว่า ""ภควา"" แปล"
19,0015,010,ว่า ท่านผู้มีภัคยะหรือว่าท่านผู้มีภาค. พระองค์ทรงแจกธรรมสั่งสอน
19,0015,011,ประชาชน ให้ได้บรรลุผลอันดีงามทั้งส่วนโลกิยะทั้งส่วนโลกุดร ยัง
19,0015,012,คนผู้ไม่เคยเข้าในให้เข้าใจ ยังคนผู้เคยเข้าใจมาบ้างแล้ว ให้เข้าใจ
19,0015,013,กว้างขวาง นำคามหลงอันเป็นเหตุตื่นเต้นและหวาดหวั่นเสีย จึงได้
19,0015,014,"พระนามว่า ""พุทฺโธ"" แปลว่า ท่านผู้ปลุกให้ตื่น หรือว่าท่านผู้ปลุก"
19,0015,015,ใจ. พระองค์ทรงสั่งสอนอย่างนี้ แก่พุทธเวไนยทุกชั้น ตามสมควร
19,0015,016,แก่ภูมิของเขา ยกขึ้นในปฏิปทาที่สูงกว่าโดยลำดับ จึงได้รับพระนาม
19,0015,017,"ว่า ""สตฺถา เทวมนุสฺสานํ"" แปลว่าท่านผู้เป็นครูสอนของเทวดา"
19,0015,018,และมนุษย์ทั้งหลาย คือ ของคนทั้งเจ้าทั้งสามัญ. พระองค์ทรงสั่งสอน
19,0015,019,คนเป็นอันมากเช่นนั้น ย่อมทรงรู้จักฉันทอัธยาศัย เข้าพระหฤทัยใน
19,0015,020,อุบาย ชักจูงน้อมดัดเข้าหาทางดีทางงาม ไม่ต้องให้บังคับขู่เข็ญ ก็จัดว่า
19,0015,021,"เป็นเอกอุไม่มีคนสู้ บัณฑิตจึงได้ถวายพระนามว่า ""อนุตฺตโร ปุริส-"