Book,Page,LineNumber,Text 14,0011,001,บางขณะย่อมขุ่นมัว บางขณะย่อมผ่องแผ้ว บางขณะนึกอารมณ์ 14,0011,002,อย่างนั้น บางขณะนึกอารมณ์อย่างนี้ เจตสิกก็เหมือนกัน บางขณะ 14,0011,003,เสวยสุข บางขณะเสวยทุกข์ บางขณะเสวยอุเบกขา สัญญา 14,0011,004,เจตนา วิตก วิจาร ย่อมแปรไปตามขณะที่ปรารภอารมณ์นั้น ๆ 14,0011,005,แม้รูปกาย นักปราชญ์กล่าวว่า ย่อมแปรดุจเดียวกัน พึงเห็นฟัน 14,0011,006,เป็นอุทาหรณ์ เคี้ยวอาหารย่อมไม่สึกหรอดุจฟันเทียม อันที่จริง 14,0011,007,ย่อมกร่อนดุจเดียวกัน แต่เพราะมีอนุเกิดแทน จึงปรากฏเป็นอย่างนั้น 14,0011,008,แต่ในระยะที่สั้นสังเกตเห็นยาก เพ่งความแปรอย่างนี้ นักปราชญ์ใน 14,0011,009,ทางปรมัตถ์กล่าวว่า ความเป็นแห่งสภาวธรรม เพียงชั่วขณะเท่านั้น 14,0011,010,แต่เพราะมีอย่างอื่นเกิดสืบยังไม่ขาดลงจึงปรากฏเป็นยังทรงอยู่ กิริยา 14,0011,011,ที่เกิดสืบกันอย่างนี้ ท่านกล่าวว่าสันตติ เมื่อใดสันตติมาขาดลง 14,0011,012,เมื่อนั้นความดับความสิ้นย่อมปรากฏ มรณะย่อมกำหนดด้วยความขาด 14,0011,013,แห่งสันตติ. 14,0011,014,ความเกิดแล้วดับและความแปรในระหว่างแห่งสังขารดังกล่าวมา 14,0011,015,"สรูปเข้าในบาลีว่า ""อุปฺปชฺชติ เจว เวติ จ อญฺถา จ ภวติ""" 14,0011,016,ย่อมเกิดขึ้นด้วยเทียว ย่อมเสื่อมสิ้นด้วย ย่อมเป็นอย่างอื่นด้วย 14,0011,017,เป็นอนิจจลักขณะ เครื่องกำหนดว่าไม่เที่ยวแห่งสังขาร. 14,0011,018,อนิจจลักขณะนี้ ย่อมได้แม้ในสังขารอันสมมติว่าดิรัจฉานและ 14,0011,019,ต้นไม้ ตลอดถึงสังขารอันมนุษย์ปรุงขึ้น เช่นรถและเรือน ย่นกล่าว 14,0011,020,ย่อมได้ทั้งในอุปาทินนะ สังขารมีใจครอง ทั้งในอนุปาทินนะ สังขาร 14,0011,021,ไม่มีใจครอง.