Book,Page,LineNumber,Text 07,0044,001,งามและพรรณทุรพล ถึงซึ่งความสุข ถึงซึ่งความทุกข์ ได้หยั่งทราบ 07,0044,002,แล้วซึ่งสัตว์ทั้งหลายอันเข้าไปถึงสุขและทุกข์ ตามสมควรแก่กรรม แจ้ง 07,0044,003,ประจักษ์ว่า อิเม วต โภนฺโต สตฺตา สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้หนอ ได้ 07,0044,004,ประกอบแล้วด้วยทุจริตในกาย วาจา ใจ ติเตียนพระอริยเจ้า และ 07,0044,005,มีทิฏฐิความเห็นผิด สมาทานซึ่งทุจริตมิจฉาทิฏฐิเป็นที่ตั้ง ครั้นกายแตก 07,0044,006,เบื้องหน้าแต่มรณะ ได้เข้าไปถึงซึ่งอบาย ทุคติ วินิบาต นรก กำเนิด 07,0044,007,เดียรฉาน เปรตวิสัย อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา ก็แลสัตว์ทั้งหลาย 07,0044,008,เหล่านี้หนอ ได้ประกอบด้วยสุจริตในกาย วาจา ใจแล้ว ไม่ติเตียน 07,0044,009,พระอริยเจ้า และเป็นผู้มีทิฏฐิความเห็นชอบ ไม่วิปริตจากทางกรรม 07,0044,010,ทางผล มาสมาทานถือมั่นซึ่งสุจริตกุศลด้วยสัมมาทิฏฐิเป็นที่ตั้ง สัตว์ 07,0044,011,เหล่านั้น ครั้นทำลายขันธ์สิ้นชีพแล้ว. ได้เข้าไปถึงสุคติภพโลกสวรรค์ 07,0044,012,พระองค์ได้ทราบซึ่งสัตว์ทั้งหลายอื่น อันเข้าไปถึงความสุขความทุกข์ 07,0044,013,สมควรแก่กรรมโดยประจักษ์ ด้วยกำลังจุตูปปาตญาณวิชชา ด้วย 07,0044,014,ประการฉะนี้. และจุตูปปาตญาณนี้เป็นวิชชาที่ ๒ พระองค์ได้บรรลุ 07,0044,015,ถึงกระทำให้แจ้งแล้ว ณ มัชฌิมยามส่วนท่ามกลางแห่งราตรี กำจัก 07,0044,016,อวิชชาโมหะ อันปกปิดจุติปฏิสนธิแห่งสัตว์อื่นนั้นให้พินาศไป. พระ 07,0044,017,มหาบุรุษเจ้าพร้อมด้วยวิชชาทั้งสองควรเป็นที่ตั้งแห่งวิปัสสนา ซึ่ง 07,0044,018,พระองค์ได้กระทำให้แจ้งด้วยประการดังนี้แล้ว ล่วงข้ามความสงสัยได้ 07,0044,019,ทั้งในสันดานตนและผู้อื่นแล้ว ควรจะเริ่มเจริญวิปัสสนาเพื่ออาสวัก- 07,0044,020,ขยญาณ. และพระมหาบุรุษนั้นได้กระทำความสังเวชสลดจิตปรารภชรา 07,0044,021,พยาธิ มรณะ อันใดเป็นอารมณ์ปฐมเหตุ จึงได้เสด็จออกจากฆราวาส