Book,Page,LineNumber,Text 06,0035,001,ทำปริกัปว่า ถ้ามีผู้เห็นตนถือของในเขตเพียงเท่านั้น ๆ จะไม่เอา 06,0035,002,จะทำเป็นชมเล่น เอาออกไปพ้นเขตนั้นได้แล้วจึงจะเอา. วินิจฉัย 06,0035,003,ดังนั้นความไม่ชัด เพราะในเวลาที่ทำปริกัปนั้น ยังไม่มีไถยจิต 06,0035,004,ลงโดยส่วนเดียว. 06,0035,005,ภิกษุนำของควรแก่ค่าภาษีมา จะผ่านที่เก็บภาษี ซ่อนของ 06,0035,006,เหล่านั้นเสีย หรือของมาก ซ่อนให้เห็นแต่น้อย ดังนี้ ต้องอาบัติ 06,0035,007,ถึงที่สุดขณะนำของนั้นล่วงพ้นเขตเก็บภาษี. เพื่อจำง่าย ควรเรียก 06,0035,008,ว่า ตระบัด. อวหารบทนี้แปลจากบทอื่นทั้งนั้น. บทอื่นเพ่งเอา 06,0035,009,ทรัพย์เป็นของผู้อื่น ภิกษุเอามาเป็นของตน บทนี้เพ่งทรัพย์ของตน 06,0035,010,แต่จะต้องเสียให้แก่ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ตนนำของผ่านเข้าไป. ข้อนี้ 06,0035,011,แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายพระยอมนับถือกรรมสิทธิ์ของท่านผู้ครองบ้าน 06,0035,012,เมือง ในที่จะเก็บภาษีจากสินค้าทั้งหลาย เมื่อจะผ่านทางเข้าไป จึง 06,0035,013,จำจะต้องเสียทรัพย์ ซึ่งท่านจะพึงได้จากตนตามจำนวนสินค้า. กิริยา 06,0035,014,เช่นนี้ เป็นความเสียความหายแก่คนสามัญมาแล้ว จึงได้จัดเข้าไว้ใน 06,0035,015,พวกอาหาร ในคัมภีร์วิภังค์เรียกชื่อว่า สุงกฆาตะ. 06,0035,016,ภิกษุชักชวนกันไปทำโจรกรรม ลงมือบ้าง มิได้ลงมือบ้าง 06,0035,017,ต้องอาบัติถึงที่สุดด้วยกันทั้งนั้น. เพื่อจำง่าย ควรเรียกว่า ปล้น. 06,0035,018,อวหารมาในอรรถกถา ควรกล่าวไว้ในที่นี้ ๓ อย่าง คือ:- 06,0035,019,ภิกษุทำของปลอม เช่นทำเงินปลอม ทำทองปลอม ชั่งของ 06,0035,020,ตวงของด้วยเครื่องชั่งเครื่องตวงอันโกง ต้องอาบัติด้วยทำสำเร็จ. เพื่อ 06,0035,021,จำง่าย ควรเรียกว่า หลอกลวง.