Book,Page,LineNumber,Text 05,0049,001,ฝ่ายพระอนุรุทธเถรเจ้าผู้มีอายุได้กล่าว ๒ พระคาถา มีความว่า 05,0049,002,"""พระพุทธเจ้า มีจิตอันยั่งยืนคงที่ในโลกธรรมทั้ง ๘ ท่านไม่หวั่นไหว" 05,0049,003,ลมอัสสาสะหายใจก่อน และปัสสาสะหายใจกลับดับสิ้นไม่มีแล้ว พระมุนี 05,0049,004,โลกนาถมิได้หวั่นไหวสะทกสะท้านด้วยมรณธรรมอันใดอันหนึ่ง ทรง 05,0049,005,ปรารภทำซึ่งสันติความระงับ คือนิพพานเป็นอารมณ์ ทำแล้วซึ่งกาละ 05,0049,006,อันใด อันพ้นวิสัยสามัญญสัตว์ พระองค์มีจิตมิได้สะทกสะท้านหดหู่ 05,0049,007,พรั่นพรึงต่อมรณธรรมเลย ได้อดกลั้นซึ่งทุกขเวทนาด้วยสติสัมปชัญญะ 05,0049,008,อันสุดดี ความพ้นแห่งจิตด้วยอนุปาทิเสสนิพพานได้มีแล้ว ประหนึ่ง 05,0049,009,"ประทีปอันไพโรจน์ชัชวาลดับไปฉะนั้น.""" 05,0049,010,"ฝ่ายพระอานนท์ได้กล่าวพระคาถามีความว่า ""เมื่อพระสัมมา" 05,0049,011,สัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบด้วยอาการอันประเสริฐทั้งปวง ดับขันธ- 05,0049,012,ปรินิพพานแล้ว มหัศจรรย์อันให้สยดสยองสะดุ้งหวาดและให้โลมชาติ 05,0049,013,"ชูชัน ได้เกิดมีแล้ว ณ ครั้งนั้น ปรากฏแก่เทพดามนุษย์ทั้งหลาย.""" 05,0049,014,ท่านทั้ง ๔ องค์ได้กล่าวคาถาแสดงความสังเวชแห่งตน ๆ ด้วยประการ 05,0049,015,ฉะนี้แล. 05,0049,016,ก็แลคาถาแสดงเรื่องปรินิพพาน แห่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า 05,0049,017,นั้น ควรเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวชและไม่ประมาทของสาธุชนบัณฑิต- 05,0049,018,ชาติผู้สดับโดยอ่อนน้อม จะให้หยั่งรู้สภาพปกติแห่งสังขาร โดยเป็น 05,0049,019,อนิจจตาทิธรรม มิได้มีความถาวรมั่งคงดำรงอยู่ได้ ล้วนเป็นของมี 05,0049,020,ความพิโยคแปรผันเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา เพราะว่าอันอุปาทินนก-