Book,Page,LineNumber,Text 05,0037,001,"จักอันตรธานในโลกเสียฉับพลันนัก."" มัลลกษัตริย์ทั้งหลายก็รำพัน " 05,0037,002,ร่ำรักสมเด็จพระทศพลเจ้า ด้วยประการต่าง ๆ พร้อมทั้งโอรสและ 05,0037,003,สุณิสาและปชาบดี เสวยทุกขโทมนัสโสกาดูรอยู่ฉะนั้น เสด็จไปถึง 05,0037,004,"สาลวันยังสำนักแห่งพระอานนท์. พระผู้เป็นเจ้าคิดเห็นว่า ""ถ้าจะให้" 05,0037,005,มัลลกษัตริย์เรียงองค์เข้าไปถวายบังคมพระผู้มีพระภาคไซร้ ก็จักไม่ 05,0037,006,ได้ถวายบังคมครบทุกองค์ ราตรีก็จัดสว่างเสียก่อน อย่ากระนั้นเลย 05,0037,007,เราจะจักโดยปริวัฏฏ์แห่งสกุล ๆ ให้ถวายอภิวาทบังคมพระผู้มีพระภาค 05,0037,008,กราบทูลให้ทราบว่า 'มัลลกษัตริย์ชื่อนี้ ๆ ทั้งบุตรทั้งภริยาทั้งบริษัท 05,0037,009,ทั้งอำมาตย์ ถวายบังคมพระบาทแห่งพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า 05,0037,010,"แห่งตน ๆ"" ดังนี้เถิด พระผู้เป็นเจ้าคิดแล้ว ก็จัดโดยวงศ์สกุลให้ถวาย" 05,0037,011,บังคม กราบทูลโดยนัยนั้น ให้มัลลกษัตริย์ได้ถวายอภิวาทเสร็จใน 05,0037,012,ปฐมยาม ส่วนเบื้องต้นแห่งราตรี. 05,0037,013,โปรดสุภัททปริพาชก 05,0037,014,จะกล่าวอื่นด้วยปัจฉิมสักขิสาวกพุทธเวไนย. สมัยนั้นปริพาชก 05,0037,015,หนึ่งชื่อสุภัททะอาศัยอยู่ ณ เมืองกุสินารา. สุภัททปริพาชกนั้นได้ยิน 05,0037,016,"ว่า ""พระสมณโคดมจักปรินิพพาน ณ ยามที่สุดแห่งราตรีวันนี้แล้ว.""" 05,0037,017,สุภัททปริพาชกคิดเนื้อความตามที่ได้ยินมาแต่ปริพาชกที่เป็นอาจารย์ 05,0037,018,"เก่า ๆ กล่าวสืบ ๆ มาว่า ""องค์พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า" 05,0037,019,"ทั้งหลาย ย่อมบังเกิดขึ้นในโลก ณ กาลบางคาบบางครั้ง"" ความ"