Book,Page,LineNumber,Text
03,050,001,ทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์ ก็คือไตรเพท.
03,050,002,ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้โวหารนั้น แต่เปลี่ยนแสดง
03,050,003,สมณะและธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นสมณะว่าเป็นพราหมณ์ และธรรม
03,050,004,ที่ทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์ ในพระพุทธศาสนา ด้วยพระวาจานั้น.
03,050,005,พรรณนาความว่า บุคคลผู้ยังบาปให้สงบระงับจากสันดาน ชื่อว่าเป็น
03,050,006,พราหมณ์ พราหมณ์นั้นละกิเลสที่ทำให้เป็นผู้ดุร้ายเย่อหยิ่งและย้อม
03,050,007,"จิตให้ติดแน่นในกามารมณ์แล้ว จึงชื่อว่ามีบาปอันลอยเสียแล้ว, ได้"
03,050,008,ศึกษาจบวิทยาอย่างยอก ๓ ประการในศาสนาเสร็จแล้ว จึงชื่อว่าถึง
03,050,009,"ที่สุดจบเวทแล้ว, มีกิจที่จำจะต้องทำในการละสิ่งอันควรละ เจริญสิ่ง"
03,050,010,อันควรเจริญ ได้ทำเสร็จแล้ว ไม่ต้องเพียรเพ่งกิจอื่นอีก จึงชื่อว่า
03,050,011,มีพรหมจรรย์ได้อยู่เสร็จแล้ว.
03,050,012,ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จออกจากร่มไม้อชปาลนิโครธ ไปยัง
03,050,013,ไม้จิกซึ่งได้นามว่า ' มุจจลินท์ ' อันตั้งอยู่ในทิศอาคเนย์แห่งพระ
03,050,014,"มหาโพธิ, ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข ๗ วัน ทรงเปล่งอุทาน ณ ที่นั้นว่า"
03,050,015,""" ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมได้สดับแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด"
03,050,016,"รู้เห็นตามเป็นจริงอย่างไร, ความไม่เบียดเบียนคือความสำรวมในสัตว์"
03,050,017,ทั้งหลาย และความปราศจากกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้
03,050,018,"ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก, ความนำอัสมิมานะ คือถือว่า"
03,050,019,"ตัวตนให้หมดได้ เป็นสุขอย่างยิ่ง.๑ """
03,050,020,พระคันถรจนาจารย์๒ แสดงประพฤติเหตุในสถานที่นี้ว่า ฝนตก