Book,Page,LineNumber,Text 03,034,001,"สี่เหลืองหม่น เป็นของที่บรรพชิตพวกอื่นใช้เหมือนกัน, มีจำนวน" 03,034,002,เท่าไร คำพระมัชฌิมภาณกาจารย์กล่าวเป็นพหูพจน์ แปลว่ามากกว่า 03,034,003,ผืนเดียว. คำพระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า ครบไตรจีวร คือ สังฆาฏิ 03,034,004,"ผ้าซ้อนนอก อย่างเสื้อหนาวของคฤหัสถ์ในบัดนี้ ๑, อุตตราสงค์ " 03,034,005,"ผ้าห่ม ๑, อันตรวาสก ผ้านุ่ง ๑. แต่สอบได้แน่ว่า เดิมมีเพียงผ้านุ่ง" 03,034,006,กับผ้าห่มเท่านั้น แคบสั้นไม่ใหญ่เหมือนจีวรพระในทุกวันนี้. สังฆาฏิ 03,034,007,"เป็นบริขารเพิ่มขึ้นทีหลัง, เรื่องนี้จะงดไว้กล่าวแผนกหนึ่ง เพราะไม่" 03,034,008,เกี่ยวกับอนุสนธิ. 03,034,009,ผ้านี้ทรงได้มาจากไหน ? พระอรรถกถาจารย์แสดงว่า ฆฏิการ- 03,034,010,พรหมนำมาถวายพร้อมกับบาตร. พระมัชฌิมภาณกาจารย์หาได้กล่าว 03,034,011,ถึงไม่. ถอดใจความแห่งคำอรรถกถา น่าจะทรงได้ในสำนักบรรพชิต 03,034,012,ผู้ได้สมาบัติ เพราะสมาบัติเป็นเหตุแห่งความเกิดเป็นพรหม. ถ้าจะ 03,034,013,ต้องแสวงหาผ้ากาสายะ บรรพชาของพระองค์ คงเนื่องด้วยความ 03,034,014,ตระเตรียม. 03,034,015,มูลเหตุแห่งบรรพชา อาการเสด็จออก และวิธีบรรพชา เป็น 03,034,016,ปัญหาที่จะพึงพิจารณาอยู่ สุดแท้แต่ปราชญ์ผู้ค้นคว้าในตำนานจะพึง 03,034,017,"สันนิษฐานเห็น, กล่าวไว้ในที่นี้พอเป็นเครื่องนำทาง." 03,034,018,จะอย่างไรก็ตาม คงได้ความลงรอยเดียวกันว่า พระมหาบุรุษ 03,034,019,ได้เสด็จออกบรรพชาแล้วจากศากยสกุลเมื่อพระชนมายุได้ ๒๙ ปีแล.