Book,Page,LineNumber,Text 03,031,001,จะทรงบรรพชา ตรัสสั่งนายฉันนะหรือคนอื่นมาทูลพระราชบิดา ๆ 03,031,002,ไม่ปรารถนาให้บวชและทรงกันแสงอยู่ข้างนี้ ทรงบรรพชาอยู่ข้าง 03,031,003,โน้น. ข้อนี้ก็ไม่แย้งคำพระอาจารย์ผู้รจนาบาลีมัชฌิมนิกายไปทีเดียว 03,031,004,แต่ดูเป็นการเดาจัดเกินไป. ขอยุติลงว่า ยังไม่ได้เหตุอันพอแห่งอาการ 03,031,005,ที่เสด็จออกบรรพชา. 03,031,006,คราวนี้พิจารณาถึงวิธีบรรพชา. เพื่อจะให้เข้าใจชัด จักกล่าว 03,031,007,ธรรมเนียมไว้ผมแห่งคฤหัสถ์ก่อน. พวกคฤหัสถ์ไว้ผมยาว เกล้ารวบ 03,031,008,"ขึ้นขมวดเป็นเมาลีไว้บนกระหม่อม, ที่พวกพม่าทำตามอย่าง แต่ได้" 03,031,009,พบในหนังสือแสดงธรรมเนียมของพวกพราหมณ์ในยุคหลังว่า พวก 03,031,010,พราหมณ์ไว้ผมยาว เกล้าเป็นจุกเฉพาะบนกระหม่อม โกนข้างล่าง 03,031,011,อย่างไว้จุกแห่งพวกเด็กในประเทศนี้. พวกเราได้อย่างมา แต่เดิมที 03,031,012,"ผู้ใหญ่ก็คงไว้เหมือนกัน, ครั้นเรียวลงตัดเสียไม่เกล้าเป็นจุก แต่คง" 03,031,013,"โกนผมข้างล่างเหมือนกัน กลายเป็นผมมหาดไทย, เป็นแต่ปล่อย" 03,031,014,ให้เด็กไว้ชั่วคราว. ในเมืองพัทลุงยังมีพวกพราหมณ์เกล้าจุกอย่างนี้ 03,031,015,ในปี ( ๒๔๕๕ ) ข้าพเจ้าได้พบ ๓ คน. ธรรมเนียมนี้คงมีเก่าแก่เหมือน 03,031,016,"กัน แต่ตกมาในประเทศเราก็นานแล้ว, เข้าใจว่าน่าจะมีทั้ง ๒ อย่าง." 03,031,017,เมื่อพระมหาบุรุษเสด็จออกบรรพชา ทรงทำอย่างไรแก่พระ 03,031,018,เมาลี ? คำของพระอรรถกถาจารย์ว่าทรงตัดด้วยพระขรรค์คราวเดียว 03,031,019,"เท่านั้น, พระเกศาเหลือยาวประมาณ ๒ องคุลี ม้วนกลมเป็น" 03,031,020,"ทักษิณาวัฏ, ตั้งอยู่กำหนดเท่านั้นจนนิพพาน. คำของพระมัชฌิมภาณ-" 03,031,021,กาจารย์ว่า ทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ แปลว่าโกนพระเศียร.